รัตนาธิเบศร ทำเลทองของอสังหาริมทรัพย์ฝั่งตะวันตก
ถนนรัตนาธิเบศร หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 302 เริ่มต้นจากบริเวณแยกแคราย(ต่อจากถนนงามวงศ์วาน) ไปบรรจบกับถนนกาญจนาภิเษก (ทล.9) บริเวณแยกบางใหญ่ รวม ระยะทาง 16.00 กิโลเมตร มีสะพานพระนั่งเกล้าเป็นจุดเชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ.2528 โดยมีสภาพเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร พื้นผิวลาดยาง ปัจจุบัน (พ.ศ.2550) ถนนรัตนาธิเบศร ได้รับการปรับปรุงสภาพจากเดิม ให้เป็นถนนที่มีทางคู่ขนาน และเพิ่มช่องจราจรเป็น 12 ช่องจราจร ผิวจราจรเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี พร้อมทั้งทำการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำใหม่ โดยเป็นตัวสะพานใหม่จะคร่อมตัวสะพานเดิมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเมื่อสะพานดังกล่าวแล้วเสร็จ จะมีลักษณะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แบบ 2 ชั้น สามารถที่จะช่วยแบ่งเบาการจราจรได้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะทำให้โครงข่ายการจราจรมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้มีเดินทางสู่ส่วนต่าง ๆ มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และช่วยลดปัญหาการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมืองให้ลดน้อยลงได้
สำหรับโครงข่ายการคมนาคมในบริเวณดังกล่าว ประกอบด้วยถนนรัตนาธิเบศร ซึ่งทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนตะวันตกไปยังถนนวงแหวนตะวันออก หรือ อีสต์ -เวสต์ คอริดอร์ ซึ่งช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยังเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างสะดวก ที่สำคัญถนนรัตนาธิ -เบศร นั้นถือได้ว่าเป็นเส้นทางหลักสำหรับการสัญจรของประชาชนในเขตจังหวัดนนทบุรี เพราะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอำเภอต่าง ๆ ได้ทั้งหมด รวมทั้งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงทั้ง สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ได้อีกด้วย
กล่าวคือ หากต้องการเดินทางไปทางด้านตะวันออก โดยเริ่มจากถนนรัตนาธิเบศร ตรงไปเข้าถนนงามวงศ์วาน ไปตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นให้ตรงไปลงอุโมงค์ลอดถนนพหลโยธิน เข้าถนนเกษตรฯ-นวมินทร์ เพื่อไปชนกับถนนนวมินทร์ หรือสุขาภิบาล 1 เดิม ซึ่งสามารถตรงไปเข้าถนนตัดใหม่บริเวณสามแยกจากถนนนวมินทร์ ไปชนกับถนนวงแหวนตะวันออก เป็นระยะทาง 3.00 กิโลเมตร ใกล้กับต่างระดับรามอินทรา บริเวณห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ที่กำลังเวนคืนที่ดิน ซึ่งงานก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2551
และขณะเดียวกัน หากต้องการไปทางตอนเหนือ โดยเริ่มต้นจากถนนรัตนาธิเบศร แล้วเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวนตะวันตก) หรือถนนชัยพฤกษ์ แล้วต่อไปยังถนนสายปทุมธานี-บางบัวทอง หรือถนนสาย 345 ซึ่งสามารถใช้เดินทางไปบรรจบกับถนนพหลโยธิน ในเขตอำเภอบางปะอิน นอกจากนั้นยังสามารถใช้ถนนติวานนท์ ต่อเข้าถนนสายปทุมธานี-บางไทร (ทล.347) ได้อีกเช่นกัน
หรือถ้าหากต้องการเดินทางไปทางด้านตอนใต้ ก็สามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษก ตรงไปข้ามถนนบรมราชชนนี ที่บริเวณต่างระดับฉิมพลี เพื่อไปบางแค บริเวณตัดกับถนนเพชรเกษม และเมื่อวิ่งต่อไปก็จะพบจุดตัดกับถนนพระราม 2 ที่บางขุนเทียน ต่อจากต่างระดับบางขุนเทียนไปแล้วจะเป็นถนนที่เรียกว่า ถนนวงแหวนด้านใต้-พระประแดง ซึ่งปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างเสร็จแล้วบางส่วน คือ ช่วงจากถนนบางขุนเทียน-พระประแดง มีระยะทาง 12.00 กิโลเมตร ซึ่งถนนในช่วงดังกล่าวนี้เป็นทางยกระดับตลอดสาย โดยขณะนี้ถนนพระประแดงจะวิ่งมาบรรจบกับถนนบางนา-ตราด บริเวณกิโลเมตรที่ 9 บริเวณถนนวงแหวนตะวันออก และจะมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแห่งหนึ่ง ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ (2550)
สำหรับการเดินทางไปทางด้านตะวันตกนั้น ในขณะนี้ยังต้องเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนี หรือถนนสายปทุมธานี-บางเลน (ทล.346) ก่อน แต่ในอนาคตการเดินทางไปทางด้านตะวันตกนั้น จะสามารถเดินทางได้โดยตรงจากถนนรัตนาธิเบศร เข้าทางหลวงพิเศษระหว่าง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-บ้านโป่ง ได้ทันที ซึ่งทำให้การเดินทางสู่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี หรือเพชรบุรี รวมทั้งการเดินทางสู่ภายใต้ของประเทศ ก็จะสามารถเดินทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ได้มีการกำหนดแนวไว้แล้ว คาดว่าคงจะเริ่มการก่อสร้างในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนการเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจ ก็สามารถเดินทางได้โดยสะดวกโดยการใช้เส้นทางของทางด่วนขั้นที่ 2 (สายบางโคล่-แจ้งวัฒนะ-บางปะอิน) บริเวณด่านงามวงศ์วาน หรือเดินทางโดยใช้ถนนราชพฤกษ์ ต่อด้วยถนนตากสิน-เพชรเกษม เพื่อข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร) เข้าสู่ใจกลางของย่านพาณิชยกรรม ทั้งย่านสาทร สีลม เพลินจิต สุขุมวิท ปทุมวัน ฯลฯ ได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากความสะดวกในการคมนาคมแล้ว ในบริเวณถนนรัตนาธิเบศร ยังได้รับการพัฒนาในด้านระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นอย่างดี ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบโทรคมนาคม รวมทั้งระบบบริการสาธารณะที่ดี ที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งนี้โดยเฉพาะระบบน้ำประปานั้น ทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างโรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ขึ้น และเปิดใช้เป็นทางการไปแล้วนั้น ช่วยให้การบริการของระบบน้ำประปา ในบริเวณฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพียงพอสำหรับการขยายตัวของชุมชน
ซึ่งส่งผลให้ย่านถนนรัตนาธิเบศรและส่วนต่อเนื่องกลายเป็นย่านที่ได้รับความสนใจในการลงทุน ด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องนับจากที่ถนนเส้นนี้เปิดให้ใช้เป็นต้นมา โดยทำเลที่ติดกับถนนใหญ่ จะได้รับการพัฒนาเป็นโครงการจัดสรรในระดับต่าง ๆ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐ อาทิเช่น ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ศาลจังหวัดนนทบุรี สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี เป็นต้น ทำให้ความเจริญในย่านดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสังเกตได้จากทั้งสองฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยจุดให้บริการต่าง ๆ ทั้งด้านสาธารณะและด้านพาณิชยกรรม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นยังมีการเปิดดำเนินกิจการของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค เช่น ศูนย์การค้าย่านงามวงศ์วาน และติวานนท์ ซึ่งมีทั้ง เดอะมอลล์ เทสโก้โลตัส คาร์ฟูร์ พันธุ์ทิพย์ บิ๊กซี ฯลฯ และอีกจุดหนึ่งที่มีแหล่งการค้าเกิดขึ้นก็คือ บริเวณก่อนขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลาย ๆ ห้างด้วยกัน เช่น เซนทรัล โรบินสัน คาร์ฟูร์ ฯลฯ นอกจากนี้แล้วในเขตบางใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดหนึ่งที่รับความสนใจทางด้านการลงทุนเพื่อบริการด้านพาณิชยกรรม เนื่องจากมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นอย่างหนาแน่น ทั้งบิ๊กซี คาร์ฟูร์ เทสโก้โลตัส บางใหญ่ซิตี้ ฯลฯ
ทั้งนี้จึงถือได้ว่า ถนนรัตนาธิเบศร เป็นจุดหลัก สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งด้านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมตลอดเส้นทางแล้ว บริเวณที่มีศักยภาพไม่น้อยไปกว่ากันและอยู่ในแนวต่อเนื่องซึ่งได้แก่ ถนนท่าอิฐ ถนนชัยพฤกษ์ (เส้นเชื่อมถนนรัตนาธิเบศรกับถนนสาย 345 และถนนแจ้งวัฒนะ) และถนนราชพฤกษ์ รวมทั้งถนนนครอินทร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบริเวณที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก เป็นบริเวณที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นชุมชนที่มีความเจริญ มีความพร้อมด้านที่พักอาศัยและด้านพาณิชยกรรมในระดับต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งโครงการขนาดใหญ่และขนาดกลางเป็นจำนวนมาก รวมทั้งความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค ระบบการขนส่งและคมนาคมที่ดี จึงทำให้ได้รับการลงทุนเพื่อพัฒนาให้เป็นโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากเส้นทางสายใหม่ ๆ ดังที่ได้กล่าวข้างต้นนั้นจะเป็นที่ต้องการของนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ตามที แต่ในขณะเดียวกันแนวต่อเนื่องของถนนรัตนาธิเบศรในเส้นทางเดิม ก็ยังคงอยู่ในความสนใจและความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ทั้ง ถนนงามวงศ์วาน ถนนติวานนท์ ถนนนนทบุรี 1 ถนนสนามบินน้ำ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนเต็มรัก ถนนบ้านกล้าย-ไทรน้อย และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งตลอดแนวของเส้นทางเหล่านี้ยังคงมีศักยภาพสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่เป็นจำนวนมาก
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ถนนรัตนาธิเบศร และส่วนต่อเนื่อง เป็นย่านที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านการคมนาคม และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งระบบการบริการสาธารณะต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ได้รับความสนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้หากในอนาคตอันใกล้ โครงการขนส่งมวลชนระบบรางสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่-บางซึ่อ) ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการได้อย่างแน่นอนเป็นทางการ ย่อมจะส่งผลให้บริเวณดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจในการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว การก่อสร้างโครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแหงใหม่ (โครงการสะพานนนทบุรี 1) พร้อมถนนเชื่อมต่อ (ถนนสายราชพฤกษ์-วัดโบสถ์ดอนพรหม-นนทบุรี 1) ซึ่งมีระยะทางรวม 4.30 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้ (2550) ย่อมจะส่งผลให้ศักยภาพในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในบริเวณถนนรัตนาธิเบศร และส่วนต่อเนื่องมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าของที่ดินในบริเวณดังกล่าวปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน |