Eng
ไทย
เกี่ยวกับมูลนิธิ
หลักการและจรรยาบรรณ
ราคาประเมินค่าก่อสร้าง
บทความความรู้ข้อแนะนำ
เว็บบอร์ด
ติดต่อมูลนิธิ
การประเมินโครงการก่อสร้างค้าง
 
อ.วสันต์ คงจันทร์
กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
 
        หลังจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจกลางปี 40 เป็นต้นมา จะพบว่ามีโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ จำนวนมาก ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จได้ ทั้งโครงการบ้านจัดสรร โครงการอาคารชุดพักอาศัย โครงการอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันปล่อยทิ้งร้างอยู่เป็นจำนวนมาก ในกรุงเทพมหานคร
 
        การประเมินค่าโครงการลักษณะที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จนี้ จะทำการประเมินด้วยวิธีการใด และอย่างไร จึงจะเป็นการสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจยิ่ง
        โดยทั่วไปแล้วการประเมินค่าโครงการลักษณะนี้ปกติมักจะทำการประเมินค่าด้วยวิธีการต้นทุน (Cost Approach) โดยทำการประเมินมูลค่าที่ดิน รวมกับค่าก่อสร้างก่อสร้างไปได้ตามสภาพที่มี แต่มูลค่าที่ได้อาจไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงนัก เนื่องจากเป็นการพิจารณาในเชิงต้นทุนเป็นสำคัญ (การพิจารณามูลค่าในด้านต้นทุน ปัญหาก็คือว่า ค่าก่อสร้างไม่ได้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ตามตัวเลขที่ทำการสำรวจโดยสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย พบว่าจากปี 39 ถึงปี 44 ค่าก่อสร้างโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ในขณะที่มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมในกรุงเทพมหานคร กลับเปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงข้าม คือลดลงประมาณ 30%)
 
        ดังนั้นตามในภาวะขณะนี้ น่าจะพิจารณาประเมินค่าตามภาวะตลาดมากกว่า กล่าวคือ เราควรจะพิจารณาวิธีการที่สอดคล้องกับราคาตลาด คือ วิธีการเปรียบเทียบราคาตลาด (Market Approach) แต่เนื่องจากโครงการยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จึงต้องมีสมมติฐานในการประเมิน ดังนี้
 
1.
สมมติฐานว่าถ้าโครงการ ถ้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ จะสามารถขายได้เท่าไร ตามภาวะราคาขายขณะที่ก่อสร้างเสร็จ
2.
จากนั้นจะต้องพิจารณาประมาณค่าก่อสร้างและค่าดำเนินการก่อสร้างต่อให้โครงการแล้วเสร็จ ว่าต้องใช้งบประมาณอีกเท่าใด แล้วนำมาหักออกราคาที่ขายได้ ในข้อ 1
3.
แล้วค่อยนำมูลค่าที่ได้ตามวิธีการเปรียบเทียบราคาตลาด มาพิจารณาเปรียบเทียบกับมูลค่าที่ได้ตามวิธีการต้นทุน ซึ่งในภาวะขณะนี้มูลค่าตามวิธีการเปรียบเทียบราคาตลาดมักจะต่ำกว่า เนื่องจากเป็นการกำหนดมูลค่าจากราคาขาย ซึ่งส่วนใหญ่ราคาลดลงมาตามภาวะตลาด
4.
ตัวอย่างเช่น ถ้าประเมินอาคารชุดพักอาศัย ที่ก่อสร้างค้างไว้แห่งหนึ่ง บนถนนพระรามที่ 3 ที่ตั้งโครงการประมาณ 2 ไร่ โดยตามแผนโครงการนี้ทำการก่อสร้างอาคาร 20 ชั้น ขนาดพื้นที่ก่อสร้าง 30,000 ตารางเมตร จำนวนหน่วยขาย 275 หน่วย ๆละประมาณ 60 ตารางเมตร แต่ปัจจุบันก่อสร้างได้เพียง 10 ชั้นเท่านั้น ประมาณ 15,000 ตารางเมตร เฉพาะงานโครงสร้าง และทิ้งร้างมา 5 ปีแล้ว
การประเมินค่าอาคารชุดก่อสร้างค้าง
ลำดับ
รายละเอียด
ตัวเลข
อธิบายเพิ่มเติม
1
ถ้าก่อสร้างเสร็จ จะขายได้ ตรม.ละ
35,000.00
สำรวจตลาดมาแล้ว
  1.1 พื้นที่ห้องชุดแต่ละหน่วย
60.00
ตารางเมตร
  1.2 ราคาขายแต่ละหน่วย
2,100,000.00
บาท
  1.3 จำนวนหน่วยทั้งหมดถ้าก่อสร้างเสร็จ
275.00
หน่วย
  1.4 จะสามารถขายได้เป็นเงินรวม
577,500,000.00
บาท
  1.5 การก่อสร้างต่อต้องใช้เวลา+ระยะเวลาในการขาย
4.00
ปี (คิดเฉลี่ย 2 ปี)
  1.6 เราประเมิน ณ วันนี้ ต้องคิดลดค่าเงินที่จะได้รับในอนาคตเป็นปัจจุบัน
10%
อัตราคิดลด (Discount Rate)
  1.7 ประมาณการมูลค่าปัจจุบัน
477,272,727.27
บาท
2
ประมาณค่าก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ
 
 
  2.1 อาคารถ้าต้องก่อสร้างทั้งหมด 20 ชั้น
30,000.00
ตารางเมตร
  2.2 ค่าก่อสร้างต่อตารางเมตร
13,500.00
ต้องใช้วิศวกร
  2.3 ค่าก่อสร้างรวม อาคารทั้งหลัง
405,000,000.00
บาท
  2.4 แต่ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 10 ชั้น
15,000.00
ตารางเมตร
  2.5 ค่าก่อสร้างส่วนที่ก่อสร้างไปแล้ว ต่อตารางเมตร
9,500.00
เฉพาะโครงสร้าง
  2.6 เป็นเงิน
142,500,000.00
บาท
  2.7 แต่อาจมีบางส่วนที่ไม่อาจใช้ได้
10%
ประมาณการ
  2.8 คงเหลือ
128,250,000.00
บาท
  2.9 นำไปหักออกจากค่าก่อสร้างรวม 20 ชั้น ทั้งหลัง
276,750,000.00
จะได้เป็นค่าก่อสร้างต่อ
    (หรือจะให้วิศวกรคำนวนตามแบบ ส่วนที่ต้องก่อสร้างต่อ ตรง ๆ ก็ได้)
 
 
3
ดังนั้นมูลค่าโครงการนี้ตามสภาพ (อาคาร 10 ชั้น)
200,522,727.27
มูลค่าตามวิธีการเปรียบเทียบตลาด
4
เทียบกับมูลค่าตามวิธีการต้นทุน
 
 
  4.1 ค่าที่ดิน
800.00
ตารางวา หรือ 2 ไร่
  4.2 มูลค่าที่ดินประเมินได้
150,000.00
บาท/ตารางวา
  4.3 ค่าที่ดินรวม
105,000,000.00
บาท
  4.4 มูลค่าอาคารเฉพาะส่วนที่ก่อสร้างไปแล้ว (10 ชั้น)
128,250,000.00
ข้อ 2.8
  4.5 รวมค่าที่ดิน + ค่าอาคาร
248,250,000.00
มูลค่าตามวิธีต้นทุน
5
แสดงว่าปัจจุบัน ราคาต้นทุนสูงกว่าราคาตลาดมาก
 
ข้อ 3 VS ข้อ 4.6
หมายเหตุ : การประมาณตัวเลขการขาย การก่อสร้าง ตามระยะเวลาต่าง ๆ ทั้งข้อ 1 และ 2 ปกติแล้วต้อง ทำ Cash Flow แต่ตัวอย่างนี้ เพียงแต่ประมาณการคร่าว ๆ เป็นแนวคิดก่อน
 
        การประเมินอาคารร้าง ยังมีข้อระมัดระวังเกี่ยวกับ การตรวจสอบการต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างกับหน่วยงานที่อนุญาติ ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะปกติใบอนุญาตก่อสร้างจะอนุญาตคราวละ 1 ปี และการตรวจสอบสภาพอาคาร ทางด้านโครงสร้าง และอื่น ๆ ว่าปัจจุบันมีสภาพเป็นอย่างไร สามารถก่อสร้างต่อ แล้วใช้งานได้หรือไม่ ซึ่งควรทำการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง (โดยวิศวกร) ก่อน เนื่องจากโครงการก่อสร้างค้างส่วนใหญ่ จะทิ้งร้างมานานหลายปีแล้ว และการประมาณการค่าก่อสร้างและค่าดำเนินการต่อ ต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบโดยวิศวกรหรือสถาปนิกโดยตรง เนื่องจากส่วนที่ก่อสร้างไปแล้วบางรายการ อาจไม่สามารถนำไปใช้ได้ต่อ ต้องทุบทิ้งทำใหม่ เนื่องจากเป็นส่วนที่สำคัญมากต่อมูลค่า
Area Trebs FIABCI
 
10 ถนน.นนทรี กรุงเทพมหานคร 10120 โทรศัพท์:66 2295 3171: โทรสาร: 66 2295 3994 Email: info@thaiappraisal.org   สถานที่ตั้ง: แผนที่