Eng
หน้าแรก เกี่ยวกับมูลนิธิ หลักการประเมินค่าทรัพย์สิน มาตรฐานจรรยาบรรณ
อัตราผล
ตอบแทน
มาตรฐานราคาค่าก่อสร้าง บทความความรู้ข้อแนะนำ เว็บบอร์ด ติดต่อมูลนิธิ
กลับหน้าแรก
ราคากลางไม้ขุดล้อม ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พ.ศ.2563
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะเลขานุการคณะทำงานไม้ขุดล้อม มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะได้จัดทำราคากลางไม้ขุดล้อม ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พ.ศ.2563 จึงได้นำเสนอไว้ใน AREA แถลงฉบับนี้

สรุปภาพรวม

            การสำรวจไม้ขุดล้อมในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งแรกดำเนินการในปี 2562 ในครั้งล่าสุดนี้สำรวจในเดือนกรกฎาคม 2563

            กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจทั้งหมด 156 รายนี้ ส่วนมากเป็นหญิงถึง 58% อาจเป็นเพราะฝ่ายชายออกไปขุดล้อมต้นไม้ก็ได้  กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 48 ปี โดยอายุส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 37-59 ปี ปีที่เปิดดำเนินการวิสาหกิจไม้ขุดล้อม โดยเฉลี่ยคือปี 2549 หรือเมื่อ 14 ปีก่อน แสดงว่าผู้ทำวิสาหกิจนี้ไม่ใช่เพิ่งเริ่มดำเนินการ แต่คาดว่าส่วนมากได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ถือได้ว่าเป็นวิสาหกิจที่มีความมั่นคงทางด้านรายได้ ผู้ประกอบวิสาหกิจไม้ขุดล้อม ส่วนใหญ่มีทั้งที่เพาะปลูกไม้เอง

            วิสาหกิจไม้ขุดล้อมมีรายได้ที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ระดับ SMEs ที่มีรายได้เดือนละประมาณไม่เกิน 20,000 บาทจำนวน 29% และระดับใหญ่ที่มียอดขายได้เดือนละ 100,000 ขึ้นไปถึง 16% จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การรวมตัวกันได้ยาก มีรายได้เฉลี่ยในปี 2563 เป็นเงิน 53,611 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าผลการสำรวจปี 2562 ที่ได้ค่าเฉลี่ยที่ 87,377 บาทต่อเดือน โดยมีกำไรในเบื้องต้นประมาณ 34% แต่ในปี 2562 มีผลกำไรประมาณ 40%

            สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่บอกว่า “ปานกลาง” (50%) อย่างไรก็ตามสัดส่วนของกลุ่มที่มองว่าแย่มากและค่อนข้างแยะ มี 25% มากกว่าสัดส่วนของกลุ่มที่มองว่าค่อนข้างดีหรือดีมาก (3%) แสดงว่าสถานการณ์โดยรวมยังไม่สดใสนัก ถ้าคิดเป็นค่าจะได้ติดลบ 4% แสดงว่าสถานการณ์แย่ลง ส่วนสถานการณ์ในปี 2564 น่าจะดีกว่าปี 2563

            ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือลูกค้าขาประจำ 22% รองลงมาก็คือลูกค้าขาจร 31% และทั้งสองอย่างพอๆ กันมี 47% แต่ผลสำรวจปี 2562 พบว่าลูกค้าขาประจำ 44% รองลงมาก็คือลูกค้าขาจร 39% และเป็นลูกค้าที่ได้รับคำแนะนำจากลูกค้าเดิม 17%  ผลสำรวจยังพบว่า 38% ขายกับผู้สั่งซื้อโดยตรง ซึ่งอาจเป็นทั้งลูกค้าประจำหรือลูกค้าขาจรก็ตาม มีเพียง 23% ที่ขายผ่านคนกลาง นอกนั้นอีก 39% พอๆ กัน ในการขายบ้านส่วนมาก (55%) ขายตามปกติ และเกือบทั้งหมดคือประมาณ 59% ขายไม้ขุดล้อมให้กับลูกค้าภายในประเทศเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น 47% เป็นบุคคลธรรมดาที่มาซื้อต้นไม้

            ส่วนปัญหา-อุปสรรคในการทำวิสาหกิจไม้ขุดล้อม ได้แก่ ปัญหาขาดน้ำ การแข่งขันสูง-ขายไม่ดี ขาดแคลนแรงงาน ขาดเงินทุน โควิด-19 ต้นทุนสูง เก็บเงินลูกค้าไม่ได้ ขายตัดหน้า-ตัดราคา ต้นไม้ตาย สินค้าขาดตลาด ค่าขนส่งแพง เป็นต้น แต่ปัญหาเหล่านี้ก็สามารถแก้ไขได้ หากมีความร่วมมือกัน กลุ่มใหญ่ที่สุดให้ความเห็นว่าควรช่วยกันขายและแนะนำลูกค้าให้แก่กันและกัน (59%) ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ ความคาดหวังให้รัฐบาลพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังซื้อแก่วิสาหกิจและภาคเอกชนอื่น

            ในปี 2563 พบว่าไม้พะยูงได้รับความนิยมสูงสุดถึง 11.3% ราชพฤกษ์ 10.4% และมั่งมี 7.9% ตามตารางที่ 18 ท้ายนี้ อย่างไรก็ตามไม้แต่ละประเภทอาจได้รับความนิยมเพิ่มลดตามแต่ละห้วงเวลา แต่ละฤดูกาล ความพึงพอใจส่วนบุคคล และตามลักษณะของต้นไม้ด้วย เป็นต้น

            ท่านผู้สนใจสามารถ download รายงานฉบับเต็มได้ตามท้ายนี้ >> https://bit.ly/2tdPE8B

 

 
Area Trebs
 
อาคาร @area เลขที่ 5/15 ซอยนนทรี 5 ถนนนนทรี เขตยานนาวา กทม. 10120 
Tel.66.2295.3171 Fax.66.2295 1154 Email:info@thaiappraisal.org; สถานที่ตั้ง:แผนที่