แหล่งข่าวกล่าวว่า ราคาที่ดินที่กลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์ได้เสนอไปนั้นอยู่ที่ระดับ 950,000 บาทต่อตารางวา ถือว่าสูงที่สุดนับแต่ได้มีการเปิดประมูลในประเทศไทย รวมแล้วที่ดินแปลงดังกล่าวมีมูลค่า 3,800 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่าง 2 ฝ่ายได้ในปลายเดือนเมษายนหรืออย่างช้าต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยกลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์เสนอรายละเอียดโครงการต่อสถานทูตอังกฤษว่า จะมีการนำพื้นที่ดังกล่าวไปพัฒนาเป็นโครงการอาคารสำนักงาน โรงแรมและศูนย์การค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่กลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์มีความถนัด

         อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า แต่เดิมที่ดินดังกล่าว บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เคยร่วมกับทางกลุ่ม จีไอซี หรือ The Government of Singapore Investment Corporation จากสิงคโปร์ ที่ถือหุ้นในกลุ่มแลนด์ฯ เข้าร่วมประมูลด้วย แต่เนื่องจากมีการเสนอราคาที่ค่อนข้างสูงเกินไปทำให้กลุ่มแลนด์ฯต้องถอนตัวในรอบสุดท้าย ประกอบกับกลุ่มแลนด์ฯสามารถหาที่ดินแปลงใหม่บนถนนสุขุมวิทในราคาที่ถูกกว่าได้ ซึ่งหากมีการพัฒนาโครงการก็จะมีมูลค่าการลงทุนใกล้เคียงกับโครงการในที่ดินของสถานทูตอังกฤษ คือประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเดิมกลุ่มแลนด์ฯจะพัฒนาโครงการให้มีทั้ง โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และอาคารสำนักงานเกรดเอ ค่าเช่าประมาณ 1,500 บาทต่อตารางเมตร

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประมูลขายที่ดินแปลงนี้ สถานทูตอังกฤษได้ให้บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการขาย ซึ่งในเบื้องต้นมีผู้สนใจหลายราย แต่เนื่องจากมีการตั้งราคาค่อนข้างสูงทำให้บางรายต้องถอนตัวออกไป เช่นกลุ่ม ที ซี ซี แคปปิตอลแลนด์ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์ประมูลซื้อที่ดินแปลงได้ ก็เท่ากับเป็นการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในเครือของกลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์ เพราะมีที่ดินอยู่ติดกับสถานทูตอังกฤษอยู่แปลงหนึ่งแล้ว ทำให้สามารถขยายโครงการที่ครอบครัวมีความถนัดได้มากขึ้นและเป็นการเสริมศักยภาพให้กับกลุ่มมากขึ้นด้วย