"สมคิด" โล่งอกอสังหาฯ ยังไกล "ฟองสบู่"
มติชนรายวัน, อังคารที่ 14 ตุลาคม 2546 หน้า 9
 
สรุปสาระข่าว
 
        "สมคิด" โล่งอกอสังหาฯยังไกล "ฟองสบู่" จี้เอกชนปรับตัวเชื่อมข้อมูลรับบูมเฟส 2
 
ข้อคิดเห็น
 
        เปิดเผยภายเรียกตัวแทน 3 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์. . . ไม่ควรฟังแต่จากผู้ประกอบการ สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ยังมีอีกมากมาย เช่น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, สภาวิศวกร, สภาสถาปนิก, สมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์, สมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย, สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย, สมาคมภูมิสถาปัตย์แห่งประเทศไทย, สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย, สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย, สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ฯลฯ
        "ตัวแทนภาคเอกชนที่เชิญมาล้วนเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 70-80% ของตลาด" . . . ไม่จริง ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาด มีสัดส่วนเพียง 12% ในตลาดเท่านั้น
 
รายละเอียดของเนื้อข่าว
 
         นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายเรียกตัวแทน 3 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธ.อ.ส.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พบเพื่อรับฟังข้อมูลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากภาคเอกชน และติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นธุรกิจดังกล่าวที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ว่าหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเชิญตัวแทนภาครัฐและเอกชนมาชี้แจง และพบว่าธุรกิจดังกล่าวยังห่างไกลเรื่องฟองสบู่อีกมาก เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยยังเพิ่มต่อเนื่อง และข้อมูลจากสถาบันการเงินพบว่าการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์รอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นการให้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินเปล่ายังมีไม่มาก
        นายสมคิดกล่าวว่า นอกจากนี้ได้เสนอให้ทั้ง 3 สมาคมเปลี่ยนบทบาทมาเป็นอุตสาหกรรมหลักในการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ ไม่ใช่มองธุรกิจแค่การขายบ้าน โดยขณะนี้เป็นช่วงที่ผ่านวิกฤตการณ์มาแล้ว เป็นเฟส 2 ของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของระบบ แต่ยังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันมากขึ้น และวางระบบกฎเกณฑ์การควบคุมกันเอง รวมถึงการเชื่อมโยงกับภาครัฐ เช่น การเคหะแห่งชาติ (กคช.) และ ธ.อ.ส.
        "ตัวแทนภาคเอกชนที่เชิญมาล้วนเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 70-80% ของตลาดรวม เช่น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บริษัท แสนสิริ บริษัท โนเบิล เฮ้าส์ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สามารถจัดระเบียบอุตสาหกรรมนี้ได้ง่ายขึ้น"