|
|
สรุปสาระข่าว |
|
ผู้ใหญ่บ้านจากจังหวัดจันทบุรีได้กล่าวว่า
ขณะนี้เกษตรกรกำลังเกิดความสับสนกับนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
เนื่องจากมีหลายส่วนคิดว่านโยบายนี้จะทำให้ตนเองมีเงินกู้เพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก
และแปลงไปเป็นทีวี รถยนต์ ทั้งนี้ เกษตรกรที่มีที่
ส.ป.ก. ปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อจากทาง ธ.ก.ส.ได้อยู่แล้วในวงเงินไร่ละ
5,000-6,000 บาท
นายอดิศักดิ์ชี้แจงว่า โครงการแปลงสินทรัพย์ฯจะสนับสนุน
ให้เกษตรกรที่มีโครงการดีได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นอาจจะถึงไร่ละ
10,000-20,000 บาท. |
|
ข้อคิดเห็น |
|
คนเราถ้าไม่มีหัวการค้า
จะเอาทุนไปทำอะไร มีเงินแต่ไม่มี idea ระวังจะเอาไปผลาญหมด
มีทางออกให้ประชาชนที่ดีกว่า "ขี่ช้างจับตั๊กแตน" เช่นนี้ไหม |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ
เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(ส.ป.ก.) กล่าวในการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็น
เรื่องนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่มีปฏิรูปที่ดินจังหวัด
และเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 100 คน จาก 28 จังหวัดว่า
ตามแผนงานของ ส.ป.ก.ในปี 2547 ที่จะนำพื้นที่ ส.ป.ก.
จำนวน 10 ล้านไร่ เกษตรกรกว่า 600,000 ราย ใน 69
จังหวัด เข้าโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนนั้น ตามขั้นตอนแล้วกำหนดให้เกษตรกรต้องมาสมัครเข้าร่วมโครงการที่ส.ป.ก.จังหวัดตั้งแต่เดือน
พ.ย.-ธ.ค. 2546 และขึ้นทะเบียนไว้กับทาง ส.ป.ก.เท่านั้น
จึงจะมีสิทธิ์ขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันไปแล้วกับ
ส.ป.ก. ที่จะเข้าร่วมโครงการ โดย ธ.ก.ส. จะเริ่มปล่อยสินเชื่อในวันที่
5 ม.ค. 2547
สำหรับการปล่อยสินเชื่อของ ธ.ก.ส. จะพิจารณาจากโครงการที่มีความสมบูรณ์มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถชำระหนี้คืนได้
โดยจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดการเพิ่มหนี้ให้กับเกษตรกร เป็นดินพอกหางหมูและต้องเสียที่ดินทำกินพื้นสุดท้ายไปในที่สุด
โดยจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนว่าเกษตรกรแต่ละราย มีหนี้อยู่เท่าไร
และมีเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งระบบการกลั่นกรองการปล่อยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรตัวจริง
ไม่ใช่นายทุน ซึ่งเกษตรกรจะต้องนำเงินที่กู้ไปพัฒนาอาชีพ และปรับปรุงการเกษตรของตน
หากโครงการไม่ชัดเจนและจ้องที่จะนำเงินไปใช้ในด้านอื่นที่ไม่ใช่การทำเกษตรกร
เช่น นำไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือรถยนต์ หมดสิทธิที่จะขอสินเชื่อทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุม ผู้ใหญ่บ้านจากจังหวัดจันทบุรีได้กล่าวว่า
ขณะนี้เกษตรกรกำลังเกิดความสับสนกับนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เนื่องจากมีหลายส่วนคิดว่านโยบายนี้จะทำให้ตนเองมีเงินกู้เพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก
และแปลงไปเป็นทีวี รถยนต์ ทั้งนี้ เกษตรกรที่มีที่ ส.ป.ก. ปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อจากทาง
ธ.ก.ส.ได้อยู่แล้วในวงเงินไร่ละ 5,000-6,000 บาท จึงไม่เห็นความแตกต่างว่าโครงการนี้กับที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้จะแตกต่างกันอย่างไร
ซึ่งนายอดิศักดิ์ชี้แจงว่า โครงการแปลงสินทรัพย์ฯจะสนับสนุน ให้เกษตรกรที่มีโครงการดีได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นอาจจะถึงไร่ละ
10,000-20,000 บาท. |
|