ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (31 มี.ค.) ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด สาขาวังน้อย ริมถนนพหลโยธิน หมู่ 7 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าพบ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ บัวภาคำ สารวัตรเวร สภ.อ.วังน้อย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนางวรรณา พงษ์สุภาพ อายุ 40 ปี ตำแหน่งผู้ช่วย ผจก.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาวังน้อย ข้อหาฉ้อโกงเงินจากบัญชีของลูกค้าในสาขาเป็นเงินหลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางสำนักงานใหญ่ได้รับการร้องทุกข์จากลูกค้าของธนาคารฯ สาขาวังน้อย ว่า เงินฝากในบัญชีหายไปหลายราย คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท จึงดำเนินการตรวจสอบอย่างลับๆ ตั้งแต่เดือน ก.พ. จนถึงวันที่ 25 มี.ค. พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของธนาคารบางคนแอบถอนเงินจากบัญชีของลูกค้าไปใช้จ่ายส่วนตัวจริง จึงมีการชดใช้เงินคืน ให้กับลูกค้าที่เสียหายและตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด
จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า นางวรรณา พงษ์สุภาพ เป็นผู้กระทำผิดโดยแอบถอนเงินจากบัญชีของลูกค้าที่มีความสนิทสนมกับนางวรรณาและไม่ค่อยตรวจสอบบัญชีของตัวเองไปใช้ส่วนตัว ที่ผ่านมาจะใช้วิธีถอนเงินของลูกค้ารายหนึ่งไปใช้ หากลูกค้ามาตรวจสอบบัญชีก็จะหมุนเงินของลูกค้ารายอื่นมาใส่กลับคืน ภายหลังเกิดหมุนเงินไม่ทันทำให้เรื่องแดงขึ้นมา โดยมีตัวเลขความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท จึงมอบหมายให้ตัวแทนเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ บัวภาคำ สารวัตรเวร สภ.อ.วังน้อย เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา รวบรวมพยานหลักฐานก่อนเสนอขออนุมัติออกหมายจับนางวรรณาเมื่อวันที่ 29 มี.ค. และติดตามไปที่บ้านเพื่อจับกุม ปรากฏว่านางวรรณาเก็บข้าวของหลบหนีไปแล้ว จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเล่นหุ้นเป็นจำนวนมาก คาดว่าเงินที่ฉ้อโกงมาทั้งหมดอาจจะนำมาใช้เล่นหุ้น
ด้าน พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางชุดสืบสวนของ บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และท้องที่อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีแล้ว เพราะถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรง โดยประสานกับทาง สตม.สกัดการเดินทางออกนอกประเทศด้วย รวมทั้งจะต้องขยายผลว่ามีคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ต่อไป |