Eng
หน้าแรก เกี่ยวกับมูลนิธิ หลักการประเมินค่าทรัพย์สิน มาตรฐานจรรยาบรรณ
อัตราผลตอบแทน
มาตรฐานราคาค่าก่อสร้าง บทความความรู้ข้อแนะนำ เว็บบอร์ด ติดต่อมูลนิธิ
อ่าน 1,700 คน
ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ดีเหมือนกัน
สยามรัฐ วันที่ 10-11 พฤษภาคม 2553 หน้า 16

ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA)

          ก่อนหน้าที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ จะประกาศให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ผมก็ไม่กล้าบอกว่าเห็นด้วยกับการยุบสภา เพราะกลัวเข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยิ่งเมื่อคณะกรรมการ กกต. ออกข่าวว่า งบประมาณในการเลือกตั้งใหม่เป็นเงินเพียง 2 พันล้านบาท ผมก็ยิ่งมั่นใจว่าการยุบสภาเลือกตั้งใหม่น่าจะเป็นทางออกที่ดี ทั้งยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์

          เงิน 2 พันล้านบาทนี้นับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์นับหมื่นนับแสนล้านในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งชีวิตของคนไทยประมาณ 30 คน บาดเจ็บอีกนับพันคนซึ่งถือเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้

          การเลือกตั้งใหม่ยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เพราะการรณรงค์หาเสียงจากผู้ที่เกี่ยวข้องถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเฟื่องฟูจากการจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ ป้ายซึ่งถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็คงมีการเช่าเพื่อการหาเสียง รวมทั้งการเช่าใช้พื้นที่เพื่อการรณรงค์หาเสียงอื่น ๆ

          อันที่จริงความสูญเสียนับหมื่นนับแสนล้านดังกล่าว ยังถือเป็นการสูญเสียชั่วคราว พอสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นรายได้ต่าง ๆ ก็กลับมาอีก ดูอย่างการจลาจลในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปีพ.ศ.2548 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วกรุงและมีการเผารถยนต์ราว 10,000 คัน ก็ยังไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสเสื่อมทรุด ฝรั่งเศสมีนักท่องเที่ยวปีละ 70 ล้านคน ในห้วงแห่งความวุ่นวายก็คงมีนักท่องเที่ยวหดหายไปมาก แต่ก็กลับฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ หรือแม้แต่การเกิดรัฐประหารในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2549 ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอย

          อย่างไรก็ตาม หากเกิดการนองเลือดมีการใช้กำลังอาวุธก็จะกลายเป็นความสูญเสียอย่างยิ่ง เช่น กรณีประเทศพม่า เมื่อ พ.ศ.2531 หรือกรณีเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง เมื่อ พ.ศ.2532 โชคดีที่ประเทศไทยไม่เกิดการนองเลือดดังกล่าว

          ในกรณีเกิดการนองเลือดจะทำให้ประเทศไทยถูกจัดอันดับเครดิตต่ำลง อัตราความเสี่ยงในการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มูลค่าทรัพย์สิน และอสังหาริมทรัพย์ของประเทศตกต่ำลง อย่างน้อย 10-15% ผมเคยประมาณการไว้ว่ามูลค่าทรัพย์สินประเภทที่อยู่อาศัยและเกษตรกรรมทั่วประเทศเป็นเงินรวมกันประมาณ 50 ล้านล้านบาท หากมูลค่าลดลง 10% เนื่องจากการนองเลือดและความไม่สงบภายในประเทศ ความสูญเสียก็คงเป็นเงินมหาศาล

          แต่ในภาวะที่ประเทศไทยกำลังมีทางออกทางการเมืองที่ดี ความสูญเสียเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ก็คงจะฟื้นตัวได้โดยเร็ว และอาจเป็นการฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด เพราะบรรยากาศการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาได้ถูกทำให้ตกต่ำเกินความเป็นจริง

          เมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จในเดือนพฤศจิกายน และหากมีการจัดตั้งรัฐบาลที่เข้มแข็งและไม่ต้องพะวงกับปัญหาทางการเมืองประเทศไทยก็จะยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ดูคล้ายถูกแช่แข็งไประยะหนึ่งก็จะพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นในแง่มุมหนึ่งการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภาวะผันผวนเช่นทุกวันนี้ อาจถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด และได้ผลตอบแทนที่ดีทางหนึ่ง

          อย่างไรก็ตามในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น นักลงทุนตัองลงทุนซื้ออย่างรอบรู้ อสังหาริมทรัพย์ที่น่าลงทุนไม่ได้มีเพียงเฉพาะบ้านมือหนึ่ง ยังมีสินค้ามือสองทั้งแบบ “แกะกล่อง” (ซื้อแล้วแต่ยังไม่มีผู้อยู่อาศัย) กับสินค้าที่มีผู้ใช้สอยแล้ว สินค้ามือสองเหล่านี้มักมีราคาถูกกว่าสินค้ามือหนึ่งประมาณ 30-40% นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกลงทุนด้วย

          ในวิกฤตย่อมมีโอกาส ขอให้ประเทศไทยเจริญอย่างมั่นคงและสมานฉันท์ตลอดไป
Area Trebs
 
10 ถ.นนทรี เขต.ยานนาวา, กรุงเทพมหานคร 10120 Tel.66.2295.3171 Fax. 66.2295 1154 Email: info@thaiappraisal.org; สถานที่ตั้ง: แผนที่