หมอทวีศิลป์ไม่ได้พูดความจริง

         ตามที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้แถลงเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ดร.โสภณเห็นว่าข้อมูลไม่เป็นความจริงหลายประการจึงขอมองต่างมุม

          ดร.โสภณ พรโชคชัย ได้ทำคลิป ตอบโต้คำแถลงของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ที่แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563 ในประเด็นที่ว่า

          1. กรณีเกาหลีมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย (ผู้ป่วยรายที่ 31) แต่ปกปิดความจริงทำให้มีการติดเชื้อเป็นจำนวนมากนั้น ในประเทศอื่นก็มีคล้ายกัน แม้แต่ในกรณีประเทศไทยที่สนามมวยลุมพินี ก็ติดจากเซียนมวยคนหนึ่งที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อไป 50 กว่าคนในวันเดียว <1>

          2. นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า “หนึ่งคนติดไปแล้วหนึ่งร้อยกว่าคนนะครับแล้วก็ต้องตายอีกสองพันกว่าคน” อันที่จริงคงเป็น “ตาม” มากกว่าเพราะ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 มีการตายเพียง 260 คน <2> (ข้อนี้คงไม่ใช่ “ตาย” ตามที่ ดร.โสภณ แย้งไปแต่แรก)

          3. การสัมผัสอาจไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อก็ได้ ข้อนี้อาจต่างจากภาพยนตร์ Contagion สัมผัสล้างโลก ในความเป็นจริง ที่สนามมวยลุมพินี มีผู้ไปร่วมงาน 2,500 คน <3> แต่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน แต่ตามสถิติโดยรวมของไทยเสียชีวิต 1% หรือประมาณ 1 คนใน 50 คน <4>  ในประเทศไทยคนขับรถเมล์สาย 140 ที่เสียชีวิตไป ก็ไม่พบผู้โดยสารป่วยตามเลย  แม้แต่คนเก็บขยะ คนคุ้ยขยะ คนกวาดถนน คนเร่ร่อน ก็ยังไม่พบผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 เลย

          4. นพ.ทวีศิลป์ว่าต้องไม่มีผู้ติดเชื้อ 14 วันหรือ 21 วันจึงจะวางใจได้โดยอ้าง “ทฤษฎี” ข้อนี้ควรอ้างอิงให้ชัดเจนว่าทฤษฎีอะไร และทฤษฎีก็เป็นเพียงสมมติฐาน ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นจริงได้  ในความเป็นจริง เราน่าจะอยู่กับเชื้อโรคได้ ไม่ใช่ว่าต้องกำจัดให้หมดสิ้นไป เช่น ปีหนึ่งๆ มีผู้ป่วยวัณโรค 120,000 คนและผู้เสียชีวิต 14,000 ราย <5> ในโลกเรายังมีผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่และโรคติดต่ออื่นหลายล้านคน มากกว่าโควิด-19 เสียอีก <6>

          5. การปิดเมืองเป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือ แม้แต่เกาหลีที่ นพ.ทวีศิลป์อ้าง ก็ยังเปิดเรียน แต่อาจเลื่อนไปบ้าง ไม่ใช่ปิดเรียนแบบประเทศไทย และเปิดแหล่งจับจ่ายต่างๆ <7>  ที่ญี่ปุ่นมีเพียง 18% ที่ไม่ได้ไปทำงานเพราะโควิด-19 <8> ส่วนใหญ่ของคนญี่ปุ่นทำงาน เพราะต้องช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ใช่หยุดอยู่บ้าน

          6. นพ.ทวีศิลป์บอกว่าที่อู่ฮั่นกลับมาระบาดอีกแล้ว แต่ข้อมูลจริงระบุว่า ตั้งแต่ 17 เมษายน 2563 ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 82,692 ราย มาถึง 14 พฤษภาคม 2563) ก็มีผู้ติดเชื้อ 82,929 ราย หรือ 0.3% หรือแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย <9>

          7. เราต้องเปิดเมืองเพราะการปิดแบบนี้ทำให้ประชาชนหมดหนทาง และคิดฆ่าตัวตาย ดร.โสภณ ประมาณการไว้ว่าจะมีคนฆ่าตัวตายเพราะโควิด-19 ถึงราว 1,066 คนในปี 2563 หากความเครียดเท่ากับยุคฟองสบู่แตกปี 2540-2543 <10>

          เราจึงพึงเปิดเมือง ให้ทำงาน แต่มีการป้องกันด้วยหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ มีสุขลักษณะที่ดี  ประเทศที่ติดมากมายกว่าไทยก็ยังเปิดไปแทบหมดแล้ว หาไม่เศรษฐกิจไทยและประชาชนไทยจะย่ำแย่กว่าการมีโควิด-19 เสียอีก

ขอบคุณที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement3765.htm