Eng
หน้าแรก เกี่ยวกับมูลนิธิ หลักการประเมินค่าทรัพย์สิน มาตรฐานจรรยาบรรณ
อัตราผลตอบแทน
มาตรฐานราคาค่าก่อสร้าง บทความความรู้ข้อแนะนำ เว็บบอร์ด ติดต่อมูลนิธิ
ราคาประเมิน
ค่าก่อสร้าง
อาคาร
พ.ศ.2566
รายละเอียด
การก่อสร้าง
ของอาคาร
แต่ละประเภท
ภาคผนวก1:
การแต่งตั้ง
คณะทำงาน
พ.ศ.2544
ภาคผนวก2:
หนังสือ
ขอรับความเห็น
พ.ศ.2544
ภาคผนวก3:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2544
ภาคผนวก4:
การประกาศใช้
รายงาน
พ.ศ.2544
ภาคผนวก5:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2545
ภาคผนวก6:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2547
ภาคผนวก7:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2549
ภาคผนวก8:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2550
ภาคผนวก9:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2551
ภาคผนวก10:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2553
ภาคผนวก11:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2554
ภาคผนวก11:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2555
ภาคผนวก12:
รายงานประชุม
จัดทำราคา
พ.ศ.2556
ราคาประเมินมูลค่าเครื่องจักร
และอุปกรณ์ด้วยวิธีต้นทุน
(Cost Approach)
จำนวนคนอ่าน
1,268,235

ราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร ณ ธันวาคม 2566
มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย (องค์กรสาธารณประโยชน์)
ดาวโหลด ราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2566 คลิกที่นี่

            มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำราคาค่าก่อสร้างอาคารมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นการดำริของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิฯ ให้มีการปรับปรุงทุก 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการประเมินค่าทรัพย์สิน และสำหรับประชาชน และนักลงทุนทั่วไปได้ใช้ต่อไป          

            ในการดำเนินการของมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการศึกษาข้อมูลจากทางราชการและภาคสนามมาดำเนินการจัดทำราคาค่าก่อสร้าง และต่อไปนี้เป็นรายงานการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างล่าสุด  ณ ธันวาคม 2566

ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 5.27%
ซิเมนต์ 11.52%
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต 16.71%
เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก 29.29%
กระเบื้อง 7.42%
วัสดุฉาบผิว 3.24%
สุขภัณฑ์ 2.06%
อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา 12.47%
วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ 12.02%
รวม  100.00%

 

           สำหรับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดตั้งแต่เดือน กันยายน 2566-ธันวาคม 2566 (ไตรมาสที่ 3 ปี 66-ไตรมาสที่ 4 ปี 66) สรุปว่ามีการลดลงวัสดุต่างๆ เฉลี่ย -0.52% โดยปัจจัยสำคัญก็คือ วัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาลดลง ได้แก่ ซีเมนต์ลดลง -0.20% เหล็กลดลง -1.33% กระเบื้องลดลง -0.54% วัสดุฉาบผิว ลดลง -0.18% สุขภัณฑ์ ลดลง-3.91% วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ลดลง -2.38% วัสดุที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไม้ เพิ่มขึ้น +4.58% ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เพิ่มขึ้น +0.27% อุปกรณ์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น +0.19% วัสดุที่มีราคาคงที่ ได้แก่ ไม่มี โดยมีรายละเอียดเป็นดังนี้:

ดัชนีรวม -0.52%
ไม้ +4.58%
ซีเมนต์ +0.20%
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต +0.27%
เหล็ก -1.33%
กระเบื้อง -0.54%
วัสดุฉาบผิว -0.18%
สุขภัณฑ์ -3.91%
อุปกรณ์ไฟฟ้า + 0.19%
วัสดุก่อสร้างอื่นๆ  -2.38%

 

           ค่าวัสดุข้างต้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่ราคาค่าก่อสร้างยังประกอบด้วยค่าแรง และภาษีและค่าดำเนินการต่าง ๆ ดังนั้นค่าก่อสร้างที่แท้จริง เพิ่มขึ้น +0.29% ในไตรมาสที่ 4/2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. ค่าวัสดุ 60% -0.52% 59.69%
2. ค่าแรง 20% +3.00% 20.60%
3. กำไร ภาษีและค่าดำเนินการ 20% 0.00% 20.00%
  100.00%   100.29%
สรุป     -0.29%
 

           โดยสรุปแล้วการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของทางราชการของเดือนธันวาคม 2566 มีผลออกมาดังนี้:

 

สรุปการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ของเดือนธันวาคม 2566      

            1. พิจารณาโดยเทียบเคียงกับเดือนกันยายน 2566 (กันยายน 2566-ธันวาคม 2566)

            2. จากการเทียบดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนกันยายน 2566-ธันวาคม 2566 ปรากฏราคาวัสดุก่อสร้างเมื่อวิเคราะห์แล้ว ปรับลดลง -0.52% โดยราคาวัสดุกลุ่มที่ราคาลดลง คือ กระเบี้อง วัสดุฉาบผิว เหล็ก สุขภัณฑ์ วัสุดก่อสร้างอื่นๆ ส่วนราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น ทุกหมวด คือ ไม้ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนกลุ่ม ราคาคงที่ คือ ไม่มี เมื่อพิจารณารวมราคาวัสดุทุกกลุ่ม ภาพรวมราคาค่าวัสดุปรับลดลง -0.52%

            3. ค่าแรงงาน มีการปรับเพิ่มขึ้น จากประกาศปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำในปี 2567 (กรุงเทพฯ ปรับจาก 353 บาท เป็น 363 บาท ปรับเพิ่มประมาณ 3%)

            4. กำไรภาษี ค่าดำเนินการ พิจารณาเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่ม

            5. เมื่อวิเคราะห์ทั้งค่าวัสดุ และค่าแรงงาน กำไรภาษี ค่าดำเนินการ ทำให้ภาพรวมราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับเพิ่มขึ้น +0.29% ทั้งนี้เมื่อทำการนำมาปรับราคาค่าก่อสร้างอาคารแล้ว โดยรวมราคาค่าก่อสร้างลดลงเล็กน้อย

 

รายละเอียดของราคาค่าก่อสร้างอาคารเป็นดังนี้:

เกี่ยวกับราคาสูง / ปานกลาง / ต่ำ แตกต่างกันอย่างไร คลิกที่นี่

หมายเหตุ:
ก:     หักค่าเสื่อมจนถึง 0 เว้นแต่อาคารที่สามารถมีอายุเกินกว่าที่กำหนดนี้ ให้ประมาณการอายุที่ยังเหลืออยู่จริง ณ วันที่ประเมิน
ข:     หักค่าเสื่อมตามเปอร์เซ็นต์ต่อปีที่กำหนดจนเหลือประมาณ 40% และเมื่อนั้นหยุดหักค่าเสื่อม ให้ถือว่าอาคารนั้นมีค่าเสื่อมคงที่ 40% แม้จะมีอายุเพิ่มขึ้นก็ตาม ตัวอย่างเช่น บ้านเดี่ยวตึกชั้นเดียว กำหนดอายุอาคารไว้ 50 ปี แสดงว่าให้หักค่าเสื่อมได้ปีละ 2% (100% หาร 50 ปี) หากบ้านเดี่ยวหลังนั้นมีอายุ 30 ปี ก็ ย่อมหักค่าเสื่อมไป 60% เหลือราคาเท่ากับ 40% แต่ถ้าบ้านข้างเคียงอีกหลังหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกัน มีอายุ 40 ปี ก็ คงหักค่าเสื่อมถึง 60% แล้วหยุดหักเช่นกัน โดยถือว่าอาคารอายุ 30 หรือ 40 ปี นั้น มีราคาหลังหักค่าเสื่อมเท่ากัน คือ 40% ของราคาค่าก่อสร้างใหม่ ทั้งนี้เพราะโครงสร้างอาคารมาตรฐานย่อมไม่เสื่อมโทรมลง อาคารที่สร้างตามมาตรฐานวิศวกรรมอาจสามารถอยู่ได้นับร้อยปี แต่สิ่งที่เสื่อมโทรมลงคือระบบประกอบอาคาร ผนังหรืออื่น ๆ โครงสร้างของอาคารมีมูลค่าประมาณ 60% ของทั้งหมด ดังนั้นจึงประมาณการว่า ในกรณีที่อาคารมีอายุ 30 ปีขึ้นไป อย่างน้อยที่สุดโครงสร้างที่เหลือและส่วนอื่น (ถ้ามี) น่าจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 40% ของราคาก่อสร้างใหม่ ทั้งนี้หากกรณีอาคารที่มีอายุมากเป็นพิเศษ เช่น ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
ค:     สำหรับอาคารตามรายการที่ 18, 21 และ 22 มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้:
        1.     กรณีอาคารที่มีขนาดเกินกว่า 10,000 ตรม. และสูงเกิน 23 เมตร จะต้องมีลิฟท์ดับเพลิง 1 ชุดมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
        2.     อาคารที่มีขนาดเกินกว่า 10,000 ตรม. ขึ้นไปยังต้องมีระบบดับเพลิง เช่น ระบบพ่นน้ำอัตโนมัติ รวมเป็นเงินอีกตารางเมตรละประมาณ 1,000 บาท
ง:     สำหรับอาคารในรายการที่ 24 อาคารสรรพสินค้าที่สูงไม่เกิน 3 ชั้น กำหนดให้มีลิฟท์และบันไดเลื่อนอย่างละไม่เกิน 4 ตัว กรณีที่เกินกว่านี้ ประมาณว่ามีค่าก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นเงิน ตัวละประมาณ 4-5 ล้านบาท และนำไปเฉลี่ยเป็นค่าก่อสร้างต่อตารางเมตรต่อไปนอกจากนี้ผู้ใช้ราคาค่าก่อสร้างอาคาร พึงเข้าใจในสาระต่อไปนี้:

  • องค์ประกอบมาตรฐานราคาประกอบด้วย ค่าก่อสร้างตามสัญญาก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ค่าวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ (ในงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานระบบประกอบอาคาร) ค่าแรงงานก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายทั่วไปในการก่อสร้างและกำไรของผู้รับเหมา และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (7%) และสบทบกองทุนต่าง ๆ (0.96%) โดยไม่รวมค่าดอกเบี้ยลงทุนก่อสร้าง บริหารโครงการ ออกแบบ ควบคุมงาน โฆษณาประชาสัมพันธ์ และค่าบริหารการขาย
  • ค่าก่อสร้างที่กำหนดนี้ใช้เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น ในพื้นที่อื่นผู้ใช้ต้องปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยควรมีเหตุผลประกอบการปรับเปลี่ยนด้วย เช่น การคำนึงถึงปัจจัยด้านการขนส่ง อัตราค่าแรงและค่าครองชีพในท้องถิ่น อุปกรณ์ก่อสร้างที่มีอยู่หรือหาง่ายหรือไม่ในท้องถิ่นนั้น และปัจจัยด้านการรับน้ำหนักของดิน (บางแห่งอาจแข็งแรงมากจนไม่ต้องตอกเสาเข็ม)
  • ค่าก่อสร้างนี้เป็นราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของพื้นที่ก่อสร้างโดยรวม (รวมช่องบันได ช่องลิฟท์ พื้นที่ส่วนกลาง ฯลฯ) ไม่ใช่ตามพื้นที่ใช้สอยสุทธิ หรือไม่ได้แยกตามราคาที่อาจแตกต่างกันตามประเภทใช้สอยเช่น ห้องนอน ห้องครัว เฉลียง ระเบียง เป็นต้น
  • ค่าก่อสร้างนี้คิดเฉพาะในขอบเขตโครงสร้างอาคารเป็นหลัก เช่น พื้นที่ซักล้างหรือที่จอดรถที่มีหลังคาคลุมรวมทั้งระเบียงชั้นบน ส่วนพื้นที่ซักล้าง ระเบียงชั้นล่างหรือพื้นที่ถนนที่ยื่นออกจากตัวบ้าน ไม่นับรวมในพื้นที่ก่อสร้างนี้
  • ค่าก่อสร้างนี้ ไม่รวมค่าโฆษณา ดอกเบี้ย ค่านายหน้าการขาย แต่เป็นราคาเพื่อประมูลก่อสร้าง
  • ค่าก่อสร้างนี้ ไม่รวมค่ากำแพงกันดินในระหว่างการก่อสร้าง (sheet pile) หรือกรรมวิธีในการก่อสร้างพิเศษไปจากทั่วไป
  • ค่าก่อสร้างนี้จัดทำขึ้นสำหรับสิ่งก่อสร้างทั่วไป กรณีที่มีลักษณะพิเศษหรือมีต้นทุนที่สูง-ต่ำผิดปกติจำเป็นที่จะต้องคำนวณอย่างละเอียดโดยการถอดแบบก่อสร้างเป็นราย ๆ ไป โดยไม่สามารถใช้มาตรฐานราคาค่าก่อสร้างนี้
  • ค่าก่อสร้างนี้ อาจสูงหรือต่ำกว่าราคารับเหมาที่มีการรับเหมากันก็ได้ เพราะราคารับเหมาก่อสร้างขึ้นอยู่กับการแข่งขัน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ส่วนราคาต่อตารางเมตรที่คำนวณนี้มาจากพื้นฐานการถอดแบบก่อสร้างตามราคาวัสดุ-ค่าแรงปกติ
  • สิ่งที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับค่าก่อสร้างก็คือ แม้ราคาค่าก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่หมายความว่าราคาขายอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเช่นกันโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังขึ้นอยู่กับค่าที่ดินด้วย และยังขึ้นอยู่กับภาวะตลาด อุปทานในท้องตลาดอีกด้วย ในบางครั้งค่าก่อสร้างขึ้น แต่ราคาอสังหาริมทรัพย์อาจไม่ได้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกันคณะทำงานไม่ได้กำหนดราคาค่าก่อสร้างอาคารในรายการต่อไปนี้ด้วยเหตุผลดังนี้:
  • โรงแรม ขึ้นอยู่กับการตกแต่ง จึงกำหนดเป็นมาตรฐานได้ยาก อาจทำให้เกิดความสับสนได้ โรงแรมอาจมีลักษณะคล้ายอะพาร์ตเมนต์ที่ได้กำหนดราคาไว้แล้ว เพียงแต่มีการตกแต่งและจัดการเป็นพิเศษ
  • สระว่ายน้ำ มีลักษณะที่หลากหลายมาก จึงไม่อาจกำหนดให้เป็นมาตรฐานได้ชัดเจน เช่น สนามเทนนิส
  • สถานีบริการน้ำมัน รีสอร์ท และอื่น ๆ ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันหลายประการ การกำหนดเป็นมาตรฐานเช่นรายการทรัพย์สินอื่นจึงทำได้ยาก
  • สำหรับเหตุผลที่ยังไม่กำหนดราคาค่าก่อสร้างของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ก็คือ
  • รั้ว ขึ้นอยู่กับสภาพดิน การถมที่ การมีคานยึด (stay) หรือไม่ วัสดุ ฯลฯ
  • สระว่ายน้ำ มีสระทั้งแบบมาตรฐาน สร้างใต้ดินหรือเหนือพื้นดิน รวมทั้งมีสระว่ายน้ำที่หลากหลายแบบ freeform สำหรับอาคารต่างๆ
  • สถานีบริการน้ำมัน มีมาตรฐานที่แตกต่างกันตามจำนวนหัวจ่าย ประเภทน้ำมันและถังเก็บน้ำมัน
  • โรงแรม ขึ้นอยู่กับระดับของโรงแรม การตบแต่งตามข้อกำหนดของแต่ละเครือโรงแรม
  • ห้องใต้ดิน ไม่มีมาตรฐานของห้องประเภทนี้
  • ห้องนิรภัย เป็นห้องที่มีความซับซ้อนสูง ขึ้นกับการออกแบบที่แตกต่างกันอย่างมากและมีการสร้างจำนวนน้อย
  • โรงเรือนเลี้ยงไก่-สุกร มีความหลากหลายเช่นกัน ตั้งแต่โรงเลี้ยงแบบเปิด-แบบปิด ยังไม่มีมาตรฐานโรงเลี้ยงสัตว์ทั่วไป
Area Trebs
 
อาคาร @area เลขที่ 5/15 ซอยนนทรี 5 ถนนนนทรี เขตยานนาวา กทม. 10120 Tel.66.2295.3171 Fax.66.2295 1154 Email:info@thaiappraisal.org; สถานที่ตั้ง:แผนที่