|
|
|
สรุปสาระข่าว |
|
เมื่อเวลา
13.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.อ.เอนก ยอดหมวก ร้อยเวร
สน.บางนา รับแจ้งเหตุพบศพชาย ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในบ้านเลขที่
22 ซอยบางนา-ตราด 4 ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.ที่
1.5 แขวงและ เขตบางนา กทม. จึงพร้อมด้วย แพทย์จาก
สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ |
|
ข้อคิดเห็น |
|
สงสัยคงเป็นเพราะปัญหาสุขภาพเป็นสำคัญ
ในวงการพัฒนาที่ดิน แม้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา
ก็ยังแทบไม่พบว่ามีการฆ่าตัวตายแต่อย่างใด โดยเฉพาะรายใหญ่
ๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อาจจะเดี้ยงหรือเข้า
ICU ไปพักหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงขนาดกระทำอัตวินิบาตกรรม |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
เมื่อเวลา
13.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.อ.เอนก ยอดหมวก ร้อยเวร
สน.บางนา รับแจ้งเหตุพบศพชาย ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในบ้านเลขที่
22 ซอยบางนา-ตราด 4 ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.ที่
1.5 แขวงและ เขตบางนา กทม. จึงพร้อมด้วย แพทย์จาก
สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น หลังใหญ่ ปลูกสร้างอยู่ในเนื้อที่ประมาณ
100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ภายในห้องนอนชั้นล่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายชำนาญ
เลิศเอกบุรุษ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน นอนตายอยู่บนพื้นห้อง บริเวณปลายเตียง ผู้ตายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว
ลายดอกสีน้ำตาล กางเกงสแล็กสีเทา มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย
ใกล้ศพพบอาวุธปืนออโตเมติก 9 มม. ยี่ห้อบราวน์นิงก์ ของผู้ตาย ตกอยู่ด้านซ้ายของศพ
จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในห้องที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นแต่อย่างใด
นางเซียงกุง แซ่ผั๊วะ อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย
ผู้พบศพคนแรก ให้การว่านายชำนาญสามี เป็นหุ้นส่วนบริษัทนำชัยแลนด์แอนด์เฮาส์
เจ้าของโครงการหมู่บ้านริมบึง ย่านถนนสุวินทวงศ์ ตอนเช้าตนขับรถไปส่งบุตรชายเรียน
ร.ด.แถวดินแดง กลับเข้าบ้านมาเห็นรถเบนซ์ สีบรอนซ์ 2 ประตู
รุ่น 300 ซีอี ทะเบียน ฉบ 3117 กรุงเทพมหานคร ของสามี จอดอยู่ในโรงรถ
ประตูห้องนอนก็ปิดเงียบ คิดว่ายังไม่ตื่น ก็ไม่ได้ไปเรียก จนเกือบเที่ยงจึงเปิดประตูเข้าไปตั้งใจ
จะเรียกให้ลุกขึ้นไปกินข้าว ปรากฏว่าพบศพสามีนอนอยู่บนพื้น
และมีเลือดไหลนองเต็มไปหมด จึงรีบแจ้งตำรวจ ส่วนสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด
น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจบ้านจัดสรรที่สามี เป็นหุ้นส่วนอยู่
เพราะยอดขายยังไม่ถึงเป้า หรืออาจจะเครียดเกี่ยวกับโรคประจำตัว
โดยสามีเป็นทั้งโรคความดันและเบาหวาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดรถเบนซ์ของผู้ตายเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม
สำหรับรถคันดังกล่าว นายชำนาญสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ลูกเมียแตะต้อง
ผลการตรวจค้นพบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ต่างหูทองคำ 2 คู่ ยาไวอากร้า
1 แผง 4 เม็ด มีรอยแกะออกไป 3 เม็ด ถุงยางอนามัย 2 กล่อง 6
ชิ้น เหลือเพียง 2 ชิ้น จึงเก็บรวบรวมมอบให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการสอบถามภรรยาและญาติของผู้ตาย ไม่มีใครติดใจสงสัยการเสียชีวิตของนายชำนาญ
หลังจากส่งศพผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายแล้ว จะได้มอบศพให้ครอบครัวของผู้ตาย
รับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป |