|
|
|
สรุปสาระข่าว |
|
แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นในของระบบการบริหารงานของนิติบุคคลในคอนโดเมืองทองธานีร้องรู้สึกเหมือนถูกข่มขู่
หลังจากก่อนหน้านี้รวมตัวชุมนุมเรียกร้องและที่ประชุมมีมติให้ปิดบอร์ดใต้คอนโด
แต่เมื่อเอาบอร์ดขึ้นติดปรากฎถูกนิติบุคคลเอาลง
จากนั้นร่อนหนังสือเตือนห้ามติดบอร์ด ล่าสุด 1
ในแกนนำผวาเพราะเจอนิติบุคคล - รปภ. - นักกฏหมาย
พร้อมด้วยตำรวจตามเคาะประตูถึงห้อง ด้านผู้กำกับปัด
แค่เอาตำรวจไปเป็นเพื่อน ไม่ได้ทำอะไร แค่เป็นการขอความร่วมมือ |
|
ข้อคิดเห็น |
|
การจัดการชุมชนต่าง
ๆ ต้องมีความโปร่งใส จึงจะไม่เกิดปัญหา ปัญหาของโลกก็คือการขาดประชาธิปไตย
ถ้ามีกันอย่างแท้จริงในทุกระดับ ปัญหาก็จะไม่เกิด |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นในของระบบการบริหารงานของนิติบุคคลในคอนโดเมืองทองธานีร้องรู้สึกเหมือนถูกข่มขู่
หลังจากก่อนหน้านี้รวมตัวชุมนุมเรียกร้องและที่ประชุมมีมติให้ปิดบอร์ดใต้คอนโด
แต่เมื่อเอาบอร์ดขึ้นติดปรากฎถูกนิติบุคคลเอาลง
จากนั้นร่อนหนังสือเตือนห้ามติดบอร์ด ล่าสุด 1
ในแกนนำผวาเพราะเจอนิติบุคคล - รปภ. - นักกฏหมาย
พร้อมด้วยตำรวจตามเคาะประตูถึงห้อง ด้านผู้กำกับปัด
แค่เอาตำรวจไปเป็นเพื่อน ไม่ได้ทำอะไร แค่เป็นการขอความร่วมมือ
นายสมศักดิ์ ลี่สถาพรวงศา หนึ่งในแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นในของระบบการบริหารงานของนิติบุคคลในคอนโดเมืองทองธานี
ได้กล่าวกับ "ผู้จัดการออนไลน์" ผ่านทางสายโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่
31 กรกฎาคมที่ผ่านที่ กลุ่มเจ้าของร่วมที่ซื้อห้องและพักอาศัยอยู่ภายในอาคาร C1
คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี เนื่องจากเจ้าของร่วมหลายคนประสบปัญหาหลายประการอันเนื่องมาจากความเพิกเฉยละเลยของนิติบุคคล
ทั้งที่จ่ายเงินค่าส่วนกลางปีหนึ่งเป็นจำนวนไม่น้อย จึงคิดว่าเป็นการไม่โปร่งใส่และไม่ยุติธรรมนั้น
จากการประชุมของเจ้าของร่วมทั้งหมดกว่า 200 คน ได้มีมติเห็นชอบให้ติดบอร์ดหน้าลิฟต์บริเวณชั้น
1 ของอาคารดังกล่าว แต่เมื่อกลุ่มแกนนำได้นำบอร์ดไปติดเอาไว้ ฝ่ายนิติบุคคลก็ได้นำบอร์ดออก
นายสมศักดิ์ก็ได้นำไปติดใหม่อีกครั้ง จากนี้ฝ่ายนิติบุคคลก็ได้ร่อนหนังสือแจ้งเตือนห้ามติดบอร์ดไปแจกไว้ตามห้องต่างๆ
และล่าสุดเมื่อเช้าวานนี้ (4 สิงหาคม)
ก่อนที่นายสมศักดิ์จะออกไปทำงาน ได้มีคนมาเคาะที่หน้าประตูห้อง
เมื่อนายสมศักดิ์แอบชะโงกมองออกมาพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่นิติบุคคล
ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นฝ่ายกฎหมาย และรปภ. รวมทั้งตำรวจในเครื่องแบบ
ที่นายสมศักดิ์สามารถมองเห็นป้ายชื่อและจดจำได้ว่าชื่อ "นาวิก"
"ผมกลัวเหมือนกัน เลยโทรศัพท์หาเพื่อนที่อยู่ตึกเดียวกัน
เค้ายังไม่ออกไปทำงาน ระหว่างนั้นพวกเค้าก็เคาะประตูห้องเรียกผม
เคาะตลอดและเคาะดังขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนผมมา แต่ก่อนที่เพื่อนผมจะเดินมาถึงพวกเค้าออกไปกันแล้ว
และก็ได้ติดจดหมายเตือนห้ามติดบอร์ดไว้ที่หน้าห้องผม ผมเลยตามลงไป
ถามว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ไม่เห็นต้องเอาตำรวจมา มันเหมือนเป็นการข่มขู่
ทางฝ่ายนิติบุคคลเค้าบอกว่าเอาตำรวจมาเป็นพยานว่าแจกจดหมายเตือนไปแล้ว
ซึ่งผมคิดว่าการแจ้งเตือนแบบนี้ไม่เห็นจะต้องถึงตำรวจ และก็มีคนเห็นมีตำรวจมากันทั้งหมด
4 นาย แต่งเครื่องแบบหมดทุกคน" นายสมศักดิ์กล่าว
จากนั้น "ผู้จัดการออนไลน์" จึงได้ประสานไปยังพ.ต.อ.ณัฐพล
ศุกระศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอปากเกร็ด ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ
โดยพ.ต.อ.ณัฐพลก็ได้ยอมรับว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายเจ้าของร่วมที่พักอาศัยภายในคอนโดมิเนียมเมืองทองธานีก็ได้โทรศัพท์มาถามถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชื่อ "นาวิก" เหมือนกัน
ซึ่งก็มีตัวตนจริงๆ เป็นนายตำรวจชั้นประทวนของสภ.อ.ปากเกร็ด
"เรื่องของเรื่องก็คือ จริงๆ
มีเพียงตำรวจ 2 คนที่เข้าไปที่อาคาร C1 เนื่องจากฝ่ายนิติบุคคลเค้ามาขอให้ไปเป็นเพื่อน
ไปส่งจดหมาย ตำรวจสองคนนี้เป็นตำรวจชั้นประทวน เป็นสายตรวจ
พอมีคนมาขอความร่วมมือ เค้าก็ให้ความร่วมมือโดยที่ไม่รู้ข้อขัดแย้งกันระหว่างเจ้าของร่วมและนิติบุคคลมาก่อน
โดยที่ตอนเค้าไป เค้าก็ไปเฉยๆ ไปยืนเฉยๆ ไปยืนหน้าห้อง แล้วนิติบุคคลเค้าก็เคาะแล้วก็ติดจดหมายเตือน
ตำรวจไม่ได้ทำอะไร ขณะเกิดเรื่องผมเองไม่ทราบ มาทราบเอาตอนหลัง
ตอนที่มีคนโทรมาถาม ซึ่งผมก็ได้สั่งการไปแล้วว่าทีหลังหากมีกรณีเช่นนี้ควรรายงานผู้บังคับบัญชา
รายงานผมหรือสวป.เพื่อพิจารณาอนุมัติเสียก่อน เพราะในกรณีเมืองทองนี้
พูดตรงๆ ว่าต่างคนก็อยากได้ตำรวจเป็นพวก ดังนั้นการจะทำอะไรก็ต้องพิจารณาให้ดี" พ.ต.อ.ณัฐพลกล่าว
ชาวเมืองทองธานีรวมพลขอผู้อยู่อาศัยร่วมบริหารนิติบุคคล
ชาวคอนโดเมืองทองธานี
ร้อง!
|