"ทุกข์" คนซื้อบ้าน 5 ล้าน ไฟตก โจรชุม คลับเฮาส์ไม่เสร็จ
 
สรุปสาระข่าว
 
        ไม่แปลกที่สังคมเมืองไทยจะได้เห็นภาพการร้องเรียนขอความ เป็นธรรมของผู้บริโภคที่กำลังผจญอยู่กับความ "ทุกข์" ในกรณีผู้บริโภคซื้อบ้านแล้วเกิดปัญหา "โจทย์" หินสำหรับ บรรดาดีเวลอปเปอร์เจ้าของโครงการจัดสรรไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้แบบง่ายๆ
 
ข้อคิดเห็น
 
        เรื่องของเรื่องก็อยู่ที่การบริหารชุมชนหรือ Estate Management ถ้ามีเงิน มีระบบที่จะดูแลดี โจรที่ไหนจะมา
 
รายละเอียดของเนื้อข่าว
 

        ไม่แปลกที่สังคมเมืองไทยจะได้เห็นภาพการร้องเรียนขอความ เป็นธรรมของผู้บริโภคที่กำลังผจญอยู่กับความ "ทุกข์" ในกรณีผู้บริโภคซื้อบ้านแล้วเกิดปัญหา "โจทย์" หินสำหรับ บรรดาดีเวลอปเปอร์เจ้าของโครงการจัดสรรไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้แบบง่ายๆ

        ไม่ต่างจากเสียงสะท้อนความทุกข์จาก ผู้ซื้อบ้านแล้วเกิดปัญหาจากลูกบ้านกว่า 24 ครอบครัวจากทั้งหมด 78 ครอบครัว ในโครงการอารียา ชบา เอ็กซ์คลูซีฟ เกษตร-นวมินทร์ เฟสต่อเนื่องจากอารียา สวนา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ contemporary บนเนื้อที่โครงการกว่า 21 ไร่เศษ

         "ผมตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้เพราะต้องการซื้ออนาคตให้กับลูกๆ ที่เริ่มโตกันแล้ว อยากให้เขาอยู่ในสังคมที่มีคุณภาพ แต่มาเจอแบบนี้เข้าทำให้เสียความรู้สึกมากๆ" ลูกบ้านรายหนึ่งระบายความ อัดอั้นตันใจกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

         เขาเล่าว่า เมื่อตัดสินใจที่จะซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตเพื่อสร้างครอบครัวในราคา 5 ล้านบาทอัพ เขาและครอบครัวตระเวนดูบ้านมาหลายโครงการ หลายทำเล สุดท้ายมาจบลงที่โครงการอารียาแห่งนี้

         เหตุผลการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านที่ โปรเจ็กต์นี้ เพราะเห็นเมื่อ 4 ปีก่อนอารียาเป็นบริษัทที่กำลังมาแรงมากๆ ในวงการอสังหาฯ ทั้งชื่อเสียงและแบรนด์สินค้า แถมเป็นบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยิ่งทำให้เชื่อมั่นได้ว่าการซื้อบ้านในโครงการนี้คงไม่มีปัญหา

         แต่หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่พบว่าผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการนี้กว่า 17 ครอบครัวกำลังเผชิญชะตากรรมไม่แตกต่างกันมากนัก หลักๆ คือ ไร้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ความไม่โปร่งใสในการจัดตั้ง นิติบุคคลบ้านจัดสรร, ไฟในบ้านตกและกระตุกบ่อยครั้ง, การจัดเก็บค่าส่วนกลาง ที่ไม่โปร่งใส รวมทั้งการก่อสร้างคลับเฮาส์ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ฯลฯ

         หนักสุดคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินภายในโครงการไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด บุคคลภายนอกสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ จึงน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกบ้านและตนเอง ถูกโจรกรรมทรัพย์สินแบบซ้ำซาก !

         ซ้ำร้าย...กรมธรรม์สินไหมทดแทน ที่บริษัทรักษาความปลอดภัยได้ทำไว้กับบริษัทประกันภัยกลับไม่ได้ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและทองคำ ทำให้ ไม่สามารถเรียกร้องสินไหมทดแทนได้เลยในกรณีที่เกิดขึ้น

         "ทั้งๆ ที่เราก็ป้องกันทุกอย่างแล้วยังโดนเลย เงินสดและทองคำที่เก็บไว้หายเกลี้ยงมูลค่าประมาณ 6 แสนกว่าบาท หลังเกิดเหตุผมได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นพนักงานขายประจำโครงการทราบ และมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานไว้ในเบื้องต้น โดยได้รับ คำยืนยันว่าจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้กับ ผู้บริหารระดับสูงทราบ แต่ก็เงียบ"

         เขาย้ำว่า การออกมาเรียกร้องต่อสื่อมวลชนครั้งนี้เพียงเพื่อต้องการให้เจ้าของโครงการคือบริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ออกมาแสดงความ รับผิดชอบ และหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกให้สมกับที่พวกเขายอมจ่ายเงินหลายล้านบาทที่เก็บออมมาทั้งชีวิตเพื่อซื้อ "สังคม" ดีๆ ให้กับตัวเองและลูกหลาน

         ด้าน "วิศิษฐ์ เลาหพูนรังษี" ซีอีโอค่ายอารียา พร็อพเพอร์ตี้ ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในฐานะ ผู้บริหารระดับสูงและเป็นผู้พัฒนาโครงการดังกล่าว ขอชี้แจงในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1.การรักษาความปลอดภัย บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยทำหน้าที่ตามสัญญาการว่าจ้างบริษัทเหล่านี้จะต้องซื้อกรมธรรม์ประกันความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุ ขึ้นตามขั้นตอนลูกบ้านจะต้องไปแจ้งความ และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ประจำโครงการ จากนั้นบริษัทจะเข้าไปดูแลในเรื่องการเรียกร้องสินไหมทดแทนให้กับลูกค้า

         "กรณีที่เกิดโจรขึ้นบ้านบ่อยครั้งน่าจะ มาจากในช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุบ่อยครั้ง บางกรณีอาจเกิดจากความหละหลวมของ รปภ.ประจำโครงการด้วย ซึ่งผมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลและตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดแล้ว"

         ขณะเดียวกันได้ประสานงานกับบริษัทรักษาความปลอดภัยให้เสริมมาตรการ การรักษาความปลอดภัย โดยเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็น 9 นาย จากเดิม มีเพียง 7 นาย ประสานงานกับตำรวจ ติดตั้งจุดตรวจภายในโครงการ และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย โดยการสับเปลี่ยนพนักงานรักษาความปลอดภัยทุก 6 เดือน

         2.กรณีคลับเฮาส์ นโยบายเดิมบริษัท มีแผนจะก่อสร้างคลับเฮาส์ บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ดำเนินการแบบสปอร์ตคลับเก็บ ค่าบริการ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีชุมชน ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของบริษัทในอนาคตอีกหลายโครงการ อีกทั้งเป็น การเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ ไม่ถือเป็นบริการส่วนกลาง เนื่องจากแต่ละโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ปัจจุบันคลับเฮาส์อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะแล้วเสร็จปลายปี 2552

         "อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในประเด็นนี้ เพราะแผนการสร้างคลับเฮาส์เกิดหลังจากที่เราเปิดขายโครงการสวนาด้วยซ้ำ ไม่ได้คอมมิตว่าจะยกเป็นส่วนกลางของลูกบ้านในโครงการเลย สำหรับบ้านในกลุ่มชบาฯ ผมขอไปตรวจสอบกับทีมขายก่อนว่าได้พูดอะไรที่เกินเลยความเป็นจริง ในประเด็นนี้กับลูกค้ามากน้อยแค่ไหน"

         3.การจัดเก็บค่าสาธารณูปโภค บริษัท ได้เก็บเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าในอัตรา 25 บาท/ตร.ว./เดือน และเก็บเงินเข้ากองทุนหมู่บ้านล่วงหน้า 1 ปีในตอนโอนกรรมสิทธิ์ และได้นำเงินที่เรียกเก็บล่วงหน้ามาเป็น ค่าบริหารจัดการและค่าสาธารณูปโภคในโครงการ เมื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อไป 80% โดยได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้แก่ บริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, บริการรักษาความสะอาดเรียบร้อย, จัดเก็บขยะในโครงการ และค่าไฟฟ้าส่องสว่าง

         ในเรื่องนี้ได้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ทั้งหมด เมื่อจัดตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรรแล้วเสร็จก็จะโอนเงินเข้ากองทุนกรรมการหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นทันที เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติฯอยู่

         4.กำลังไฟไม่เพียงทำให้เกิดปัญหา ไฟตกบ่อย การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร บริษัทได้ขออนุญาตติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ที่ถูกต้องตามมาตรฐานตามเกณฑ์ การไฟฟ้านครหลวง ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการจ่ายกระแสไฟฟ้าของทางราชการมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้บริษัทยังไม่เคย ได้รับแจ้งจากลูกบ้าน แต่จะดำเนินการประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวงเพื่อเข้ามาตรวจสอบ

         จุดจบเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป