นายบุญธรรม ทองขลิบ
หัวหน้าฝ่าย 1 กองจำหน่ายทรัพย์สิน กรมบังคับคดี
การประมูลซื้อขายทรัพย์จากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีเป็นการขายทรัพย์ตามสภาพ
โดยก่อนเข้าสู้ราคา ผู้ซื้อมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพที่แท้จริงและรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์ที่จะซื้อตามสถานที่ตั้งของทรัพย์สินตามที่ปรากฏในประกาศขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีและถือว่าผู้ซื้อได้ทราบถึงสภาพทรัพย์นั้นโดยละเอียดครบถ้วนี้
ที่มาของทรัพย์กรมบังคับคดีเป็นทรัพย์ที่เกิดจากการขัดแย้งที่ยุ่งยาก
ได้มาโดยการยึด-ขาย-ครอบครองทรัพย์ของลูกหนี้ที่จำนองกับสถาบันการเงิน ปี 2546 กรมบังคับคดีมีทรัพย์ที่ยึดมามีมูลค่าทั้งสิ้น
300,000 ล้านบาท เป็นภาระที่ต้องจำหน่ายออกไป 100,000 ล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายปี
2547 ว่าจะจำหน่ายออก 105,000 ล้านบาท คิดเป็น 10,000 ล้านบาทต่อเดือน
ตลาดการประมูลเป็นของผู้ซื้อ
ลูกค้าประกอบด้วยธนาคาร คนต้องการบ้าน นักธุรกิจ ซึ่งสามารถลงทุน และเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้โดยการวางเงินเริ่มต้นเพียง
50,000 บาท การตีราคาถ้าเห็นว่าราคาไม่ดีก็ส่งประเมินโดยเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ทนายความหรือธนาคาร
การซื้อเป็นการสมยอมซื้อของคู่กรณีระหว่างการพิพาท ต้องใช้สิทธิขายโดยคำสั่งของศาล
การโอนผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่านายหน้าราคาจึงถูกกว่าตลาด
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบของทรัพย์จากกรมบังคับคดีสำหรับผู้ซื้อคือ
ซื้อมาแล้วและเข้าอยู่ไม่ได้เพราะเจ้าของเดิมไม่ยอมย้ายออก ต้องใช้กฎหมายขึ้นอยู่เจ้าหนี้กับลูกหนี้
ประเภททรัพย์ที่นำมาประมูลของเอกชนและรัฐโดยกองบังคับคดีจะต่างกันคือ
เอกชนจะแบ่งเป็นโซน แต่กองบังคับคดีจะเป็นทรัพย์ที่หลากหลายและกระจัดกระจาย
ทรัพย์แต่ละรายจะมีการประมูลประมาณ
4 ครั้งต่อ 1 รายการ โดยการประมูลครั้งที่ 1-3 ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 80% ของราคาประเมิน
และการประมูลครั้งที่ 4 เป็นต้นไป ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 50% ของราคาประเมิน สำหรับการนับของภาครัฐมีจะระเบียบชัดเจนให้นับ
1 (3 ครั้ง) 2 (3 ครั้ง) และ 3 (1 ครั้ง) โดยการเคาะไม้ ส่วนเอกชนจะนับ นับ 1,2,3
เท่านั้น
วิธีปฏิบัติในการเข้าประมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์
1. การเตรียมเอกสารในการเข้าประมูลซื้อ
1.1.
ผู้ประมูลซื้อต้องนำบัตรประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการไปด้วย พร้อมสำเนา 1 ชุด
1.2.
ถ้าผู้ประมูลซื้อกระทำการในนามบุคคลอื่น จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30
บาท และบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา
1 ชุด
1.3.
ถ้าผู้ประมูลซื้อกระทำการในนามนิติบุคคล จะต้องมีหนังสือรับรองนิติบุคคลที่นายทะเบียนรับรองไม่เกิน
1 เดือน และหนังสือมอบอำนาจของนิติบุคคล บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา 1
ชุด
2. การเตรียมเงินในการเข้าประมูลซื้อ
ผู้ประมูลซื้อต้องเตรียมเงินสดจำนวน
50,000 บาทหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายกรมบังคับคดี กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นหลักประกันในการเข้าประมูลซื้อทรัพย์ในวันดังกล่าวและเมื่อประมูลซื้อคดีใดได้แล้ว
สามารถใช้เงินประกันดังกล่าว เป็นค่ามัดจำซื้อทรัพย์ส่วนหนึ่งในคดีนั้น หากผู้ซื้อยังประสงค์จะประมูลซื้อในคดีอื่นต่อไป
จะต้องวางเงินสดใหม่อีก 50,000 บาท หรือวางเป็นแคชเชียร์เช็คตามจำนวนเงินดังกล่าว
3. การเข้าประมูล
3.1.
ผู้ประมูลซื้อต้องวางเงินประกันและเอกสารต่าง ๆ ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนเข้าประมูล
และรับใบรับเงินประกัน บัตรสำหรับการใช้ประมูล
3.2.
นั่งในสถานที่จัดไว้สำหรับผู้เข้าประมูล และประมูลซื้อตามลำดับรายการที่มีความประสงค์จะซื้อ
3.3.
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ประมูลซื้อรายใดเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้แล้ว
ผู้ซื้อจะต้องนำเงินประกัน 50,000 บาทชำระเป็นค่ามัดจำซื้อทรัพย์บางส่วน และทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าพนักงานบังคับคดีในวันที่ซื้อ
ส่วนค่าซื้อทรัพย์ที่เหลือนั้น ผู้ซื้อจะต้องวางชำระให้ครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ซื้อ
3.4.
เมื่อผู้ซื้อชำระค่าซื้อทรัพย์ครบถ้วนก่อนกำหนด 15 วัน หรือภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันซื้อเจ้าพนักงานบังคับคดีจะออกหนังสือโอนกรรมสิทธิ์พร้อมเอกสารสำคัญ
ในการไปดำเนินการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดินต่อไป
4. การขอคืนเงินประกัน
กรณีประมูลซื้อไม่ได้ และไม่ประสงค์เข้าประมูลซื้อ
ผู้ประมูลซื้อนำหลักฐานใบรับเงินประกันและบัตรประมูลไปติดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อรับเงินคืนในวันที่ประมูล
5. ก่อนเข้าสู้ราคา
ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะซื้อตามสถานที่และแผนที่การไปที่ปรากฏในประกาศ
และถือว่าผู้ซื้อได้ทราบถึงสภาพทรัพย์นั้นโดยละเอียดครบถ้วนแล้ว
ข้อสังเกต
1. กำหนดราคาเริ่มต้นของการประมูลที่
50% และ 80% กำหนดจากประเภททรัพย์ที่ยึดดูจากราคาที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ค่าเสื่อมราคา
สภาพทรัพย์สิน ราคาใกล้เคียง ราคาตลาด คนซื้อต้องมีค่าฟ้องศาล ค่าโอน และภาระอื่น
ๆ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราคาทรัพย์
ทั้งนี้ ราคาประมูลที่ตกลงแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการคัดค้านโดยเจ้าของทรัพย์
หากมีเจ้าของทรัพย์หลายรายก็จะมีโอกาสคัดค้านราคาประมูลได้หลายครั้ง ดังนั้น เพื่อให้ราคาประมูลยุติโดยเร็ว
โจทย์และจำเลยควรมาพร้อมกันเพื่อตกลงราคาซื้อขาย
2. การวางเงินสด 50,000
บาท และการทำสัญญาซื้อขายขอสินเชื่อธนาคาร 15 วัน มีบางราย ซื้อแล้วไม่วางเงิน เจ้าหนี้ลูกหนี้ต้องฟ้องร้อง
3. การรอนสิทธิ สิทธิตามกฎหมายต้องบันทึกในสารบรรณจดทะเบียนหลังโฉนด
เป็นสิ่งสำคัญและถ้าพบกองบังคับคดีจะคืนเงินให้ผู้ซื้อ เช่น เป็นที่สาธารณะ (สาระสำคัญของผู้ซื้อ)
4. การพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินแต่ละแห่งใช้เวลาประมาณ
45-90 วัน หากผู้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มีข้อตกลงเรื่องการให้สินเชื่อกับกรมบังคับคดีแล้ว
และไม่สามารถนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระได้ทันภายใน 15 วัน ผู้ซื้อสามารถยื่นคำร้องขอขยายเวลาการวางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี
โดยให้สถาบันการเงินดังกล่าวเป็นผู้รับรอง ขอผ่อนปรน 3 ครั้ง จนได้รับอนุมัติแล้วจึงนำเงินมาโอนให้กับกรมที่ดินเพื่อจดทะเบียนจำนองได้ภายใน
1 วัน และผ่อนชำระกับสถาบันการเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม ปกติการนับคิดดอกเบี้ยจะคิดถึงวันที่ขาย
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล
กรรมการผู้จัดการ บจก.เรียลตี้เวิล์ด อัลไลแอนซ์
ในฐานะนักธุรกิจผู้ลงทุนด้านการประมูลอสังหาริมทรัพย์
มีความเห็นว่า การประมูลอสังหาริมทรัพย์เป็นการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์
โดยจัดให้มีการแข่งขันทางด้านราคาอย่างเปิดเผย
โปร่งใส ให้ประโยชน์และความยุติธรรมกับผู้ซื้อและผู้ขายสูงสุด
ประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาประมูล
1. ทรัพย์ที่ขายตามสภาพ
2. ทรัพย์ที่ปรับสภาพแล้วพร้อมใช้ประโยชน์
หน่วยงานที่จัดการประมูลอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน
1. การประมูลของภาครัฐจัดโดยกรมบังคับคดี
เป็นการประมูลทรัพย์สินเพื่อให้หนี้ อาจได้รับความยินยอมจากเจ้าของทรัพย์สิน
2. การประมูลของบริษัทเอกชน
จัดขึ้นภายหลังวิกฤตปี 2540 เป็นการแข่งขันราคาเพื่อให้ทรัพย์สินจำหน่ายออกอย่างรวดเร็ว
และได้รับความยินยอมของผู้ขายและผู้ซื้อ เนื่องจากผู้ซื้อสามารถตรวจสอบภายในของทรัพย์สินได้อย่างละเอียด
ลดอัตราเสี่ยง ซึ่งทรัพย์ที่นำมาประมูลของภาคเอกทันที
การประมูลเป็นวิธีการจำหน่ายทรัพย์สินที่ต้องการขาย
นำไปประมูลโดยกำหนดราคาเริ่มประมูลที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก หรือไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ
เพื่อให้ผู้สนใจซื้อเข้าสู้ราคากันให้ได้ราคาสูงมาก ๆ โดยเป็นราคาที่ผู้ซื้อยังมีความพึงพอใจที่จะได้ทรัพย์สินนั้น
ๆ ในราคาที่ประมูลได้
ปัจจุบันการประมูลเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากขึ้น
เนื่องจากมีโอกาสที่จะซื้อทรัพย์สินได้ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด โดยที่ผู้ขายก็พอใจที่ได้ขายทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็ว
โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยคุ้มค่าไม่ต้องทำการตลาดเสนอขาย โดยไม่รู้ว่าเมื่อไรจะขายได้
ส่วนค่าการตลาดและค่าโฆษณาต้องจ่ายไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะขายได้ทำให้สิ้นเปลืองกว่ามาก
กลยุทธ์การประมูลอสังหาริมทรัพย์
1. การตรวจสภาพทรัพย์สิน
ในการประมูลอสังหาริมทรัพย์ ประการแรกคือจะต้องรู้ถึงสภาพของทรัพย์สินที่จะเข้สู้ประมูล
ซึ่งหลักสำคัญก็คือตรวจสอบตัวบ้านทั้งภายในและภายนอก เช่น บ้านจากกรมบังคับคดีซึ่งสภาพของทรัพย์ค่อนข้างโทรม
จึงควรตรวจสอบให้ละเอียดเท่าที่จะทำได้
2. ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สิน
ในส่วนนี้สิ่งที่ต้องคำนึงมีอยู่ 2 ประการ คือ ดูว่าทรัพย์สินนั้น ๆ อยู่ในแนวเวนคืนหรือไม่
ซึ่งคงต้องตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอีกประการคือ เรื่องทำเลที่ตั้งเป็นบริเวณที่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคหรือไม่
อย่างไร
3. การตรวจสอบราคาตลาดในทรัพย์ที่สนใจประมูล
จะต้องทราบราคาตลาดของทรัพย์นั้น ๆ โดยดูได้จากบ้านทำเลใกล้เคียงที่มีการประกาศขายอยู่
ซึ่งตรงนี้จำเป็นมากในการตั้งราคาสู้ประมูล เพื่อที่จะประมูลหรือกำหนดราคาที่ไม่เกินราคาตลาดได้
4. กรณีที่อยู่อาศัยมีการปิดตาย
ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เป็นบ้านว่างไม่มีคนอยู่อาศัย ในกรณีนี้ ถ้าเป็นกรณีการประมูลทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี
ควรต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ถ้าประตูล็อคเราไม่สามารถเข้าไปดูสภาพทรัพย์โดยละเอียดได้
การบุกรุกงัดแงะเข้าไปถือว่าผิดกฏหมาย เพราะว่าเจ้าของบ้านเดิมยังมีสิทธิในทรัพย์สินอยู่
อีกกรณีคือบ้านมีผู้อยู่อาศัยอาจจะเป็นเจ้าของเดิม หรือการลักลอบหรือการเข้าอาศัยจากเจ้าของเดิม
ถ้ามีการประมูลได้คงต้องการขอให้ย้ายออก ถ้าผู้อาศัยไม่ย้ายออกจะต้องดำเนินการฟ้องขับไล่ต่อไป
ซึ่งอาจใช้เวลายืดเยื้อ 1.5-3 ปี
5. การรอนสิทธิ์และภาระจำยอม
ผู้ที่จะประมูลต้องตรวจสอบว่าในหลังโฉนดมีการติดภาระจำยอมหรือการรอนสิทธิ์หรือไม่
ทางที่ดีควรไปตรวจสอบกับกรมที่ดินเพื่อขอดูต้นฉบับโฉนดและหมายรวมไปถึงสัญญาเช่าด้วย
6. ปัญหาเรื่องมิเตอร์น้ำ,
ไฟฟ้า ปัญหาเรื่องนี้ผู้ที่ประมูลทรัพย์สินได้คงต้องตรวจสอบเช่นกันเพราะว่าถ้ามีการขออนุญาตใหม่
จะเสียค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากทั้งการประปาและการไฟฟ้าจะให้ผู้ขอติดตั้งชำระเงินค่างวดค้างจ่ายทั้งหมดตั้งแต่อดีต
สำหรับกรณีนิติบุคคลอาคารชุด การโอนต้องชำระเงินค้างจ่ายทั้งหมดเพื่อแสดงการปลอดหนี้จึงจะจดทะเบียนกับนิติบุคคลได้
ทั้งนี้ยอดค้างจ่ายจะไม่รวมถึงเบี้ยปรับของค่าใช้จ่ายค้างชำระ ดังนั้น ผู้ประมูลต้องตรวจสอบให้รอบคอบถึงค่างวดค้างจ่ายและค่าเบี้ยปรับด้วย
7. การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
ปัจจุบันทางกรมบังคับคดีมีข้อตกลงกับทางสถาบันการเงินทั้งหมด 12 แห่ง คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์,
ธนาคารธนชาติ, บริษัทเงินทุนทิสโก้, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา,
ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารนครหลวงไทย, บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน
และบริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ ซึ่งทรัพย์สินที่ประมูลได้ครบกำหนด
15 วัน หากสินเชื่อยังไม่อนุมัติ ทางธนาคารที่มีข้อตกลงจะออกหนังสือให้ผู้ประมูลซื้อยื่นต่อทางกรมบังคับคดี
เพื่อขอผ่อนผันขยายระยะเวลาชำระเงินได้
8. การทำรายได้ ควรซื้อทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้จากค่าเช่า
ซึ่งทรัพย์สินที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ คอนโดมิเนียมกลางเมือง เนื่องจากมีความต้องการในการเช่าสูง
ส่วนบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และที่ดินเปล่า คงต้องดูในเรื่องศักยภาพทางทำเล ความเจริญ
และทางด้านผังเมือง รวมไปถึงกฎการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ที่จะมีผลในการพัฒนาต่อไป
ข้อพึงพิจารณาสำหรับการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือการขายทรัพย์สิน
ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่างจากเดิมจึงไม่เหมาะสมกับนักลงทุนระยะสั้น
เนื่องจากต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนมากผู้ซื้อต้องเสียเองขึ้นกับประโยชน์ในการใช้ที่ดิน
ได้แก่ ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ภาษีเงินได้ 2% ภาษีโอน 2% (เริ่มใช้ 1 มกราคม 2547
เดิมคิดอัตรา 0.01%) รวม 7.3% และค่าประกันการเข้าประมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องจ่ายให้กรมบังคับคดีในการประมูล
50,000 บาท เป็นต้น ตัวอย่างเช่น ประมูลทรัพย์มาราคา 2 ล้านบาท ธนาคารให้สินเชื่อ
85% คงเหลือ 1.7 ล้านบาท วันโอนผู้ซื้อต้องเตรียมเงินสำหรับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ประมาณ
124,000 บาท รวมกับค่าประกันการประมูลอีก 50,000 บาท รวมแล้วผู้ซื้อต้องเตรียมเงินสดไว้ประมาณอย่างน้อย
174,000 บาท
นอกจากนี้
ผู้ซื้อต้องเตรียมตัวสำหรับทรัพย์ที่อาจเกิดปัญหาจากคู่กรณีหลายราย เช่น ธนาคารเจ้าหนี้
ลูกหนี้ ผู้รับจำนอง ซึ่งปัญหาในด้านกฎหมายผู้ซื้อควรปรึกษาทนายด้านการบังคับคดี
กฎหมายแพ่งพาณิชย์และการฟ้องขับไล่ เช่นบางรายมีสัญญาเช่า เจ้าของเดิมซื้อแล้ว ทำให้คดียืดเยื้อ
5 ปี ต้องดูว่าคุ้มค่าหรือไม่
สำหรับนักลงทุนระยะยาว
เมื่อซื้อมาในราคาต่ำต้องยินยอมในอนาคตอย่างมีเป้าหมาย เช่น เพื่อเป็นรายได้จากค่าเช่า
การค้า การติดตั้งป้ายโฆษณา
นายอภิชาต อาชาเดช
กรรมการผู้จัดการ บจก.โปรเฟสชั่นแนล เอเชีย เน็ทเวอร์ค
ในฐานะบริษัทผู้จัดการประมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน
การประมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นการให้ภาพทรัพย์สินที่เป็นกลางที่สุด
โดยเปิดโอกาสให้มีการกำหนดราคาเสนอซื้ออย่างเป็นธรรมและเปิดเผย
ซึ่งเดิมต้องว่าจ้างพนักงานขายทรัพย์สินทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
องค์ประกอบของอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประมูล
ประกอบด้วย
1. ขายได้ คุณภาพดี
ที่ตั้งดี
2. หลากหลาย เช่น
บ้านเดี่ยว ประเภทและขนาดต่าง ๆ
3. หลายหน่วยขาย เช่น
คอนโด
4. ต้องโอนได้ภายใน
30 วัน
5. ต้องไม่มีการโฆษณาทรัพย์สินนั้น
ๆ ในช่วง 3-5 เดือนก่อนหรือระหว่างการประมูล
วิธีการประมูล
1. On the Site Auction
เปิดให้เข้าขมและทำการประมูล
2. Caravan Auction
จัดตารางการประมูลบ้านแต่ละหลังในโครงการ โดยกำหนดระยะเวลาการเข้าชมและประมูล
3. Scatter Auction
ไม่เอาทรัพย์สินราคาถูก/แพงมาประมูลพร้อมกันเพราะจะไม่ได้ราคาที่เหมาะสม
4. Life Auction เป็นการประมูลในสถานที่กำหนดและเป็นที่นิยมในประเทศไทย
5. ยื่นซองประมูล
ถูกและประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย
การเตรียมตัวก่อนการประมูล
1. ขอแผ่นโฆษณา ราคา
ขนาดพื้นที่ เงื่อนไขการประมูล
2. ชมโครงการให้บ่อยที่สุด
ขายตามสภาพ โดยถามจากธนาคารที่ให้สินเชื่อ กรมที่ดิน จ้างบริษัทประเมิน เช็คราคาตลาด
3. ดูหลาย ๆ ยูนิต
เทคนิคการประมูลอสังหาริมทรัพย์
1. ควรไปถึงก่อนการประมูล
1 ชั่วโมง เพื่อขอเอกสารใหม่ และจะได้ตั้งราคา
2. นำบัตรประชาชน
พร้อมแคชเชียร์เช็ค หรือเงินสด 50,000 บาท
3. ห้ามบอกราคาที่ต้องการซื้อกับเจ้าของทรัพย์สิน
4. กรอกข้อมูลในเอกสารให้ละเอียด
ทั้งนี้
สัดส่วนการประมูลที่ดีที่สุดคือ ควรเป็น 3: 1 หรือ 5: 1 โดยทรัพย์สิน 1 รายการ ควรมีผู้เสนอซื้อประมาณ
3-5 รายจึงจะเป็นราคาที่เป็นกลางและเหมาะสมที่สุด
การเตรียมการประมูลสำหรับเจ้าของกิจการขายทรัพย์ มี
3 ขั้นตอน คือ
1. ขั้นตอนเตรียมการในช่วง
30 วัน โดยการปรับปรุงสถานที่ (Value Added) ให้กับทรัพย์สิน และการทำแผ่นโฆษณา
แผนการลงสื่อ รายละเอียด ที่ตั้ง แบบ ราคาครั้งสุดท้าย เงื่อนไขการประมูล
2. ขั้นตอนชมโครงการให้เจ้าหน้าที่พาชม
ระยะเวลาประมาณ 30 วัน
3. ขั้นตอนการทำสัญญา
ระยะเวลา 30 วันสุดท้ายเป็นช่วงการทำสัญญา 7 วันแรก วางเงินจอง และโอน
ข้อมูลสำคัญสำหรับการประมูล
1. หากราคาขายที่ได้จากการประมูลสูงขึ้นหลังจากการประมูลจะไม่ปรับราคา
ถือว่าวันประมูลเป็น Benchmark
2. หัวใจการประมูล
เป็นการเร่งการตัดสินใจของผู้ซื้อ
3. วิธีการประมูลทุกรูปแบบต้องดูเงื่อนไขของการประมูล
อาจตอบรับหรือปฏิเสธ ราคาทรัพย์สินต้องขึ้นอยู่กับว่าจะไปใช้เพื่อประโยชน์อะไร
4. นักลงทุนและผู้ซื้อต้องศึกษาดูแต่ละยูนิตให้ถ่องแท้ |