ปัทมา จันทรานุกูล
รองกรรมการผู้จัดการ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

          ปีนี้เป็นปีที่ 15 แห่งเทศกาลอสังหาริมทรัพย์แห่งเมืองคานส์ (ฝรั่งเศส ออกเสียงเป็น "คัน") ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันที่ 9-12 มีนาคม ศกนี้ ดิฉันไปร่วมงานเปิดบูธในนามของกรรมการมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
          เมืองคานส์แห่งนี้ เป็นเมืองจัดเทศกาลภาพยนต์ประจำปีอันมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปารีสไปทางทิศใต้ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ใช้เวลาเดินทางจากปารีสโดยเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมง
          อาจกล่าวได้ว่าสำหรับในระดับนานาชาติ เทศกาลอสังหาริมทรัพย์นี้ นับเป็นแหล่งรวมอสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลกจริง ๆ โดยมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 20,000 คนจาก 60 ประเทศ มีจำนวนบูธเกือบมากกว่า 500 บูธ ผู้ที่จะเข้างาน ต้องลงทะเบียนโดยเสียเงินคนละ 1,500 เหรียญสหรัฐหรือ 60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน)
          การที่เขาสามารถเก็บเงินกระทั่งคนเข้าชมงานเป็นเงินมากขนาดนี้ ก็เพราะเขาสามารถระดมผู้คนมาออกงานและร่วมงานได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับงานนิทรรศการหรือมหกรรมอสังหาริมทรัพย์อื่นทั่วโลก ผู้เข้าชมงานทุกคนจะต้องแขวนบัตรที่มีภาพถ่ายที่ทางกองอำนวยการถ่ายให้สด ๆ ไว้ตลอดเวลาที่เข้างาน
          ในประเทศไทยมีเพียงมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยไปออกบูธ นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าชมงานจาก บมจ. แสนสิริ 1 ท่าน และอีก 2 ท่านก็เป็นชาวต่างชาติที่มีกิจการในประเทศไทย
          ในปีนี้ยังมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่าทุกปี โดยมีประเทศยุโรปตะวันออกแห่กันไปเชิญชวนให้นักลงทุนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในเมืองต่าง ๆ ของประเทศตนเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะแต่ในยุโรปตะวันออกเท่านั้น เมืองในเอเซียตะวันออก ลาตินอเมริกา อาฟริกา ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ยุโรปตะวันออก เช่น ลีดส์ แมนเชสเตอร์ ปอมเปอี โรม ปารีส แมดริด ฯลฯ ก็ไปออกงานเป็นจำนวนมาก
          ดังนั้นในปีหน้า ทางคณะผู้จัดจึงเล็งจะจัดงานพิเศษ โดยรวมเอาเมืองต่าง ๆ มาออกงานเรื่อง "การพัฒนาเมือง" ในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม 2548 โดยผนวกกับงานเทศกาลอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 8-11 มีนาคม ต่อไปเลย และคาดว่าค่าลงทะเบียนสำหรับผู้จะเข้าชมงานอย่างเดียวอาจจะเฉียดแสนบาทเลยทีเดียว
          ในงานนี้ยังมีนักพัฒนาที่ดินไปร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก เพราะถือเป็นการ "road show" อย่างหนึ่ง เป็นการหาผู้ร่วมทุน หาผู้ซื้อหุ้น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในบริษัทหรือโครงการของตน
          นอกจากนี้ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ บริษัทนายหน้าข้ามชาติหลายแห่ง ต่างขันแข่งกันออกบูธและอุปถัมภ์งานเทศกาลนี้กันอย่างใหญ่โต แสดงให้เห็นว่า กิจการนายหน้าเหล่านี้กำลังเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก
          เมื่อดูเทศกาลอสังหาริมทรัพย์เมืองคานส์แล้ว ทำให้มองย้อนดูประเทศไทยของเราเอง ความจริงประเทศของเราก็มีสิ่งดีงาม สวยงาม และมีคุณค่าให้ต่างชาติมาลงทุนมากมายเช่นกัน
          ถ้าเทียบกับจีนแล้ว แม้เราจะเล็กกว่า แต่ประชากรของเราก็มีคุณภาพสูงกว่า ถ้าเทียบกับประเทศในอินโดจีนแล้ว เราก็มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า ถ้าเทียบกับสิงคโปร์และฮ่องกงแล้ว เราก็มีค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่า แม้กรุงเทพมหานครจะไม่เจริญเท่าสิงคโปร์ แต่ท่านทราบไหม มูลค่า GDP ที่เฉพาะกรุงเทพมหานครผลิตยังสูงกว่าที่ผลิตโดยสิงคโปร์เสียอีก
          เราจึงควรส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติมาทำกิจการในประเทศไทยเรา โดยเฉพาะในโครงการสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การพัฒนาเมือง และการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง
          คงจำกันได้ว่า ประเทศไทยของเราเปลี่ยนสถานะจากประเทศเกษตรกรรม มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ก็เพราะการระดมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น
          ความร่วมมือของไทยในการระดมทุนจากต่างประเทศ จะทำให้ประเทศของเราพัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค ทำให้ประเทศมีความก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนในที่สุด