รายงานสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมษายน 2547

สมัครสมาชิก Real Estate Index

        รายงานย่อฉบับนี้ออกทุกเดือนโดยรายงานภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของบุคคลและหน่วยงานที่ตระหนักถึงคุณค่าของข้อมูลเพื่อการวางแผนเป็นสำคัญ

สถานการณ์เดือนเมษายน 2547
        ในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเกิดใหม่ในพื้นที่ศึกษารวมทั้งสิ้น 29 โครงการ โดยเป็นโครงการในกลุ่มที่อยู่อาศัยจำนวน 27 โครงการ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นอีกจำนวน 2 โครงการ
        โครงการที่อยู่อาศัยที่เกิดใหม่ทั้ง 29 โครงการที่กล่าวข้างต้น มีจำนวนหน่วยรวมกันทั้งสิ้น 3,418 หน่วย ซึ่งประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ดังนี้

บ้านเดี่ยว 629 หน่วย คิดเป็น 18.4%
ทาวน์เฮ้าส์ 989 หน่วย คิดเป็น 28.9%
อาคารพาณิชย์ 100 หน่วย คิดเป็น 2.9%
อาคารชุด 1,414 หน่วย คิดเป็น 41.0%
RE (อื่นๆ) 286 หน่วย คิดเป็น 8.4%


        จะเห็นได้ว่าจำนวนที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้ พบว่ามีประเภทอาคารชุดมากที่สุด ซึ่งมีสัดส่วนของหน่วยขายมากถึง 41% และรองลงมา คือประเภททาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วนสูงถึง 29% ของจำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้ี้

        พิจารณามูลค่ารวมของโครงการที่อยู่อาศัยที่เกิดใหม่ในเดือนเมษายน 2547 มีทั้งสิ้น 9,811 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาถึง 6,071 ล้านบาท หรือต่ำกว่าถึง 38% ทั้งที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายกว่า เนื่องจากเดือนที่ผ่านมา มีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวแลอาคารชุดที่มีระดับราคาแพงค่อนข้างมาก จึงมีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง และในเดือนนี้การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดก็ยังคงมีมูลค่าโครงการสูงสุด ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงถึง 4,910 ล้านบาท หรือประมาณ 50% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด

        อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงมูลค่าโครงการโดยรวมต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาถึง 6,071 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะราคาขายค่อนข้างต่ำ (เฉลี่ย 2.870 ล้านบาทต่อหน่วย) ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยสูงถึง 5.684 ล้านบาท จะสังเกตได้ว่า ไม่มีหน่วยขายใหม่ใด ๆ ที่มีราคาต่ำกว่า 0.50 ล้านบาทเลย โดยหน่วยขายที่มีจำนวนหน่วยขายมากที่สุดจะอยู่ที่ระดับราคา 1.01-2.0 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายมากถึง 1,054 หน่วย หรือประมาณ 31% และที่ระดับราคา 3.01-5.0 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 938 หน่วย หรือประมาณ 27% ของหน่วยขายทั้งหมด โดยรวมแล้ว จะพบว่ามีจำนวนหน่วยขายที่มีระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท สูงถึง 2,938 หน่วย หรือประมาณ 86% ของหน่วยขายทั้งหมด และรวมมูลค่าได้มากถึง 65% ของทั้งหมด (6,403 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 9,811 ล้านบาท)

        เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่า เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญมีเพียง 3 บริษัท คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอาคารชุดในเมือง และเปิดพร้อมกันถึง 2 โครงการ

       นอกจากนี้ในเดือนนี้ยังมีโครงการที่น่าสนใจ คือโครงการ " บางไทร ฮอสปิเฮ้าส์" ตั้งอยู่ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ประกอบการเป็นนายแพทย์ (นพ.บุญชัย อิสราพิสิษฐ์) ได้พัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นบ้านพักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขุภาพ และออกแบบบ้านให้มีเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ให้มีลักษณะที่แตกต่างจากที่อยู่อาศัยทั่วไป เน้นจุดขายให้เหมือนอยู่บ้านและมีความปลอดภัยเหมือนอยู่โรงพยาบาล

       และในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่า มีจำนวนโครงการ 8 แห่ง ที่เปิดตัวใหม่ และตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ย่านสุขุมวิท-อโศก มีมากถึง 6 โครงการ โดยโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการอาคารชุดระดับราคาแพง และยังมีอีก 19 แห่งที่ตั้งอยู่ในเขตต่อเมือง (intermediate area) โดยเฉพาะทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่รังสิต-นครนายก, ย่านสายไหม, รามอินทรา และบริเวณบางนา-เทพารักษ์ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีระบบโครงข่ายการคมนาคมที่ค่อนข้างพร้อม สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ค่อนข้างสะดวก และเป็นพื้นที่ที่รองรับสนามบินสุวรรณภูมิ ที่จะเปิดใช้ในปี 2548 นี้ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอันมาก นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัดอีก 2 โครงการ

สมัครสมาชิก Real Estate Index