ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย |
นาย อาทิตย์ ผดุงเดช |
รางวัลชนะเลิศ ประเภทประชาชนทั่วไป |
จะอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
เป็นคำพูดที่ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจและสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การมีบ้านของตัวเองสักหลังหนึ่งเป็นความใฝ่ฝันของคนทั่วไป
แต่ด้วยภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน
จนเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ราคาหรือมูลค่าของบ้านขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ตึกแถว
ทาวน์เฮ้าส์ หรือห้องชุดก็ตาม ทำให้กว่าที่ใครสักคนจะสามารถครอบครองบ้านในฝันที่เป็นเหมือนสวรรค์ของตัวเองได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
และอาจกลายเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับใครหลาย
ๆ คน |
|
บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง
บางคนอาจต้องใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตเพื่อซื้อบ้าน
ดังนั้น การจะตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อ-ขายบ้านสักหลังหนึ่งต้องผ่านการพิจารณาปัจจัยต่าง
ๆ อย่างถี่ถ้วนและรอบคอบที่สุด เมื่อผู้ซื้อก็ต้องการบ้านที่ถูกและดี
หรือได้รับประโยชน์และความพอใจคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่จ่ายไป
ส่วนผู้ขายก็ต้องการขายบ้านให้ได้ราคาที่สูงที่สุด
เพราะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าจากการลงทุนก่อสร้าง
การตกแต่ง หรือผลกำไรของส่วนต่างจากที่ซื้อมาในตอนแรก
การซื้อ-ขายบ้านแต่ละครั้งจึงต้องมีราคาที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย
เพื่อให้เกิดความตกลงที่ประสานประโยชน์ระหว่างกันอย่างลงตัว
ราคาหรือมูลค่าที่ใช้ในการซื้อ-ขายที่เป็นที่ยอมรับนั้น
อาจจะได้มาจากผู้ซื้อหรือผู้ขายเอง จากบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่ายให้เข้ามามีบทบาทในการซื้อ-ขาย
หรือถ่ายโอนกรรมสิทธิ์บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์
ราคาหรือมูลค่าดังกล่าวก็คือ ราคาหรือมูลค่าที่ได้มาจากกระบวนการที่เรียกว่า
การประเมินมูลค่าบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์
นั่นเอง |
|
การประเมินมูลค่าบ้านมีความสำคัญในอันที่จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกซื้อ-ขาย
หรือลงทุนเกี่ยวกับบ้านได้อย่างมั่นใจบนพื้นฐานของความถูกต้องในแง่มูลค่า
โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์มูลค่าที่ถูกต้อง
โปร่งใส และเป็นธรรม ทั้งนี้ ต้องอาศัยความรู้และการสั่งสมประสบการณ์ในการประเมินและตัดสินใจ
ซึ่งหากผู้ที่ประสงค์จะซื้อหรือขายไม่มีความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอในการที่จะประเมินมูลค่าของบ้านได้ด้วยตัวเอง
ก็สามารถที่จะอาศัยผู้ประเมินที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญการเฉพาะมาช่วยในกระบวนการประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจซื้อ-ขาย
หรือถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เกิดประสิทธิภาพในการซื้อ-ขาย และเอื้อประโยชน์ที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ทุกฝ่าย
ขจัดการหลอกลวงต้มตุ๋น และความไม่เป็นธรรมให้ออกไปจากระบบ |
|
เมื่อพิจารณาบ้านในฐานะทรัพย์สินที่เป็นสินค้าชนิดหนึ่ง
จะพบว่าโดยธรรมชาติของบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์นั้นมีลักษณะแปรผันตามกับสภาวะเศรษฐกิจ
ในยามที่เศรษฐกิจเติบโต ราคาบ้านก็จะสูงตามไปด้วย
แต่จะมีข้อแตกต่างจากสินค้าทั่วไป คือ มีการเปลี่ยนแปลงของราคาค่อนข้างช้า
เป็นทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องต่ำ การตัดสินใจซื้อ-ขายใช้ระยะเวลายาวนาน
และการซื้อ-ขายครั้งหนึ่ง ๆ จะมีผู้ซื้อหรือผู้ขายเพียงบางรายเท่านั้น
อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์กับผู้ที่ต้องการบ้าน
ซึ่งมีความสามารถในการซื้อสูง ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงนี้ทำให้มีผู้ซื้อน้อยรายที่จะมีเงินสดในการซื้อ
ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน
ซึ่งก็ขึ้นกับเงินกู้ว่ามีเพียงพอหรือไม่
ทำให้อัตราดอกเบี้ย การจ่ายเงินดาวน์และระยะเวลาในการผ่อน
เข้ามีส่วนต่อการตัดสินใจในการซื้อด้วย นอกจากนี้ตลาดบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ยังมีวัฎจักรที่ค่อนข้างแน่นอนชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเฟื่องฟู
หรือตกต่ำ |
|
โดยทั่วไป
การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งก็รวมไปถึงบ้านนั้น มีวิธีประเมินมูลค่าตามมาตรฐานสากลอยู่
3 วิธี ด้วยกัน คือ |
วิธีวิเคราะห์มูลค่าจากต้นทุน เป็นการประเมินมูลค่าจากการคิดคำนวณต้นทุนการก่อสร้างใหม่ของบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์
หักลบด้วยค่าเสื่อมราคา แล้วบวกด้วยมูลค่าของที่ดิน |
วิธีเปรียบเทียบตลาด เป็นวิธีที่ชัดเจนที่สุด
คือ การเปรียบเทียบกับราคาหรือมูลค่าบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในตลาด
โดยระบุถึงเงื่อนไขในการเปรียบเทียบบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ประเมิน
เช่น คุณภาพ หรือขนาดของบ้าน-ที่ดิน แล้วจึงสรุปราคาหรือมูลค่าที่สมเหตุสมผลและใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ซึ่งหัวใจก็อยู่ที่การหารข้อมูล ผู้ประเมินจะต้องละเอียดรอบคอบในการหาข้อมูล
โดยไม่เพียงแต่จะหาข้อมูลที่ประกาศขายเท่านั้นแต่ต้องให้มีข้อมูลซื้อ-ขายจริงด้วย
และพึงระวังการสร้างหลักฐานการซื้อ-ขายเท็จ
เพื่อลวงผู้ประเมินด้วยการประเมินที่มีข้อมูลเปรียบเทียบน้อยหรือไม่สอดคล้องกัน
จะทำให้การวิเคราะห์หามูลค่าผิดพลาด และไม่น่าเชื่อถือได้ |
วิธีสุดท้าย
คือ วิธีแปลงรายได้เป็นมูลค่า เป็นการใช้ผลรวมของรายได้สุทธิที่จำได้รับในอนาคตจนสิ้นอายุขัย
มาแปลงเป็นมูลค่า ณ วันนี้ เช่น บ้านที่สามารถให้เช่านั้นมีความสามารถสร้างรายได้จากค่าเช่าตลอดอายุของบ้านเป็นเท่าไหร่
หรือขายต่อในภายหลังจะได้ราคาเท่าไหร่ บ้านที่มีศักยภาพในการทำรายได้จากการให้เช่าหรือทำกำไรสูงก็มักจะราคาหรือมูลค่าสูงกว่าบ้านที่สามารถสร้างรายได้ได้น้อยกว่า |
ในกรณีทรัพย์สินธรรมดาหรือสินค้าทั่วไปนั้น
การประเมินมูลค่าอาจใช้วิธีการเปรียบเทียบตลาดเบื้องต้นเป็นหลักได้
แต่ในกรณีทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงหรือซับซ้อนมาก
อย่างในกรณีของบ้านอาจต้องใช้ทั้ง 3 วิธีหรืออาจใช้วิธีอื่นที่เป็นวิธีขั้นสูงขึ้นไปมาพิจารณา
จากนั้นผู้ประเมินจะมาสรุปความเห็นต่อมูลค่าที่เป็นไปได้มากที่สุดต่อไป
การวิเคราะห์สรุปจะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบแต่ละกระบวนการหรือขั้นตอนในแต่ละวิธี
ซึ่งเมื่อทบทวนแล้วอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
จากนั้นก็อาจชั่งน้ำหนักความน่าเชื่อถือในแต่ละวิธี
ผสานกับประสบการณ์และความเห็นของผู้ประเมิน
ก็จะทำให้สามารถสรุปราคาหรือมูลค่าที่สมเหตุสมผลสามารถอธิบายได้ |
มูลค่าบ้านที่ได้จากการประเมินอาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่า
หรือเท่ากับราคาหรือมูลค่าที่ซื้อขายจริงได้
เพราะการประเมินมูลค่าเป็นเพียงความเห็นของผู้ประเมิน
ณ วันที่ประเมินเท่านั้น ทั้งนี้ยังมีปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบในการประเมินมูลค่าบ้าน
ได้แก่ |
วันซื้อ-ขาย
หากซื้อ-ขาย ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู
แต่ ณ วันประเมินนั้นเศรษฐกิจตกต่ำ มูลค่าที่ประเมินได้อาจลดต่ำกว่าราคาซื้อ-ขายจริงได้ |
ลักษณะทางกายภาพของบ้าน
เช่น ขนาด วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง รายละเอียดรูปแบบโครงสร้างอาคาร
การใช้ประโยชน์ปัจจุบัน อายุอาคาร การปรับปรุง
หรือคุณภาพของบ้านหรือตัวอาคาร |
ทำเลที่ตั้ง
สภาพแวดล้อมทางกายภาพ พิจารณาจากการเข้าถึงถนน
ความสะดวกในการเข้าออก ระบบการขนส่ง สาธารณูปโภคต่าง
ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ หรือบริการชุมชน
เช่น ระบบการกำจัดขยะ ความปลอดภัย ศูนย์บริการชุมชน
ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่มีการซื้อ-ขายจริง
สภาพแวดล้อมอาจยังไม่มีการพัฒนา โครงข่ายโทรคมนาคม
แต่ ณ วันที่มีการประเมินมีการเปิดให้บริการถนนเส้นใหม่หรือกลบายเป็นจุดเชื่อมต่อระบบโครงข่ายโทรคมนาคมนอกเมืองและในเมือง
ก็จะทำให้ราคาประเมินจะสูงกว่าราคาที่ซื้อ-ขายจริง |
สภาพสังคมด้านจิตวิทยา
หมายถึง สภาพสังคมหรือบ้าน ณ บริเวณโดยรอบ
ความเสี่ยงจากเหตุปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายมารบกวน
แม้จะเป็นบ้านที่คุณภาพดีก็อาจทำให้ราคาประเมินต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบ้านได้ |
เงื่อนไขการซื้อ-ขายอื่น
ๆ เช่น แรงกดดันในการซื้อขาย ก็มีผลต่อการประเมินมูลค่าเช่นเดียวกัน |
การประเมินมูลค่าบ้านก่อนการซื้อ-ขายอย่างถ้วนถี่
นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขายตามที่กล่าวมาแล้วนั้น
ยังช่วยให้ผู้ครอบครองสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น
ๆ เช่น การนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้เงิน
การทำประกันภัย การเสียภาษี การเวนคืน และยังเป็นเครื่องแสดงความมั่งคั่งของผู้ที่ถือครองได้อีกด้วย |
การซื้อ-ขายบ้านถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงจากไม่สมบูรณ์ของข้อมูลในเรื่องมูลค่าที่แท้จริงของบ้าน
หากเราละเลยปล่อยให้การซื้อ-ขายเป็นไปอย่างไม่มีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถูกต้องและเผชิญกับความเสี่ยงดังกล่าวแล้วย่อมาจะนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งในด้านเศรษฐกิจและความรู้สึกของผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายในการเปลี่ยนบ้านใหม่
เมื่อเราไม่ได้รับความพึงพอใจหลังจากที่ได้เข้ามาอยู่แล้ว
การตัดสินใจซื้อบ้านแต่ละครั้งนอกเหนือจากต้นทุนที่เป็นตัวเงินที่จ่ายไปแล้ว
ยังมีต้นทุนแฝงหรือต้นทุนที่จับต้องไม่ได้
เช่น ต้นทุนจากการเสียเวลา การปรับตัว และความคาดหวัง
ดังนั้นก่อนการซื้อ-ขายจึงต้องพิจารณาในทุก
ๆ ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับราคาหรือมูลค่าที่ตกลงกัน
หากผู้ซื้อยอมเสียเงินน้อยลงแต่ต้องแลกกับความลำบากหรือความรำคาญไปบ้าง
ย่อมไม่เกิดปัญหาข้อพิพาท แต่หากผู้ซื้อต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งโดยรวมถึงการซื้อความสะดวกสบาย
และความสุขทางใจแล้วผู้ซื้อก็สมควรที่จะได้รับสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่ |
จากที่กล่าวมา
ถือได้ว่ากระบวนการประเมินมูลค่าบ้านเป็นหลักการสำคัญในฐานะเครื่องมือที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่รู้ถึงมูลค่าที่แท้จริง
ช่วยสร้างความมั่นใจและธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและโปร่งใจในการซื้อ-ขายให้แก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
หากทั้งสองฝ่ายมีความถ้วนถี่ในการตรวจสอบหรือติดตามการประเมินอย่างใกล้ชิด
และรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ก็ย่อมจะสร้างความสุข ความพอใจให้แก่ทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
โดยมีผู้ประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินเข้ามามีบทบาทเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินการประเมิน
ซึ่งจะต้องมีการพัฒนา ปรับปรุง และเรียนรู้ในทุก
ๆ มิติที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความรู้ที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบและวิธีการซื้อ-ขายของบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในทุกขณะ |
ทั้งนี้
ประชาชนเองก็จะต้องหันมาให้ความสำคัญและเพิ่มความสนใจต่อกระบวนการประเมินมูลค่าบ้าน
และทรัพย์สินต่าง ๆ ให้มากขึ้น ซึ่งมิได้เรื่องยากหรือไกลตัวอย่างที่หลายคนคิดเพราะมีหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานประเมินราคาทรัพย์สินของกรมที่ดิน
มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
หรือโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยที่จะคอยให้ความช่วยเหลือ
สนับสนุน และแนะนำในการศึกษาหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าบ้านหรือทรัพย์สินต่าง
ๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ การประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย
จะไม่เพียงก่อให้เกิดประโยชน์ในการซื้อ-ขายของตนเอง
แต่ยังจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเอื้อต่อการสร้างประสิทธิภาพให้เกิดขึ้นแก่ระบบการแลกเปลี่ยน
ซื้อ-ขายหรือถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์
และทรัพย์สินอื่น ๆ โดยรวมต่อไป |
|
|
|
|