สุนทรพจน์
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ”
นางภัชรา ธิสอน
โรงเรียนเทิงวิทยาคม อ. เทิง จ. เชียงราย 57160

ดิฉัน นางภัชรา ธิสอน ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทิงวิทยาคม อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ดิฉันรู้สึกยินดีมากค่ะ
ที่มีโอกาสได้มากล่าวสุนทรพจน์ที่มีคุณค่าในหัวข้อเรื่อง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ
คำว่า “ภาษี” เป็นคำที่ทุกคนไม่พึงประสงค์ ดูน่ากลัว และไม่อยากคุ้นเคยด้วย เพราะมีความคิดที่ว่า ทำให้ สูญเสียเงิน เป็นการสูญเปล่า เราจึงมักทราบว่า “มีคนหลบเลี่ยงภาษี” อยู่เสมอ คำว่า ภาษี มีความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2542 ว่า หมายถึง เงินที่รัฐหรือท้องถิ่นเรียกเก็บจากบุคคล เพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศหรือท้องถิ่น เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น จะเห็นว่า เงินภาษีที่เราต้องเสียไปนั้น มิได้สูญเปล่าเลยค่ะ แต่เราน่าจะภาคภูมิใจว่า เราเป็นคนไทยคนหนึ่งที่เสียสละเงินรายได้ ไปช่วยพัฒนาบ้านเมือง เพราะท้องถิ่นหรือประเทศชาติ ก็เปรียบเสมือนบ้านของเรา หากบ้านขาดคนเอาใจใส่ เจ้าของบ้านไม่ดูแล บ้านของเราก็จะไม่น่าอยู่ สกปรกรกรุงรัง เต็มไปด้วยเชื้อโรคต่าง ๆ สมาชิกในบ้านก็จะมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ ขาดศักยภาพในการทำงาน เฉกเช่นเดียวกับท้องถิ่นและประเทศชาติ หากคนไทยไม่เสียภาษี เพื่อทำนุบำรุง ก็จะไม่มีทุนที่จะไปพัฒนาชาติ บ้านเมืองไทยจะเรืองพิลาสได้อย่างไร
ท่านผู้มีเกียรติคะ
ปัจจุบัน ระบบการจัดเก็บภาษีของประเทศไทย ใช้ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 และพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พุทธศักราช 2508 ซึ่งยังล้าหลัง และมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขาดความเป็นธรรมอยู่มากค่ะ อาทิ การประเมินภาษี คิดจากราคาปานกลางของที่ดิน ปี 2521-2524 เท่ากัน แต่ความเจริญของทำเลที่ดินแต่ละแห่งแตกต่างกัน เนื่องจากปัจจุบัน ที่ดินบางแห่ง มีสาธารณูปโภคต่าง ๆ เกิดขึ้น มีถนนใหม่ตัดผ่าน  แต่การเสียภาษีก็ยังคงเดิม ภาษีโรงเรือนและที่ดินจะมุ่งเน้นจัดเก็บจากทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เท่านั้น แต่ยกเว้นภาษีจากโรงเรือนที่เจ้าของใช้เป็นที่อยู่อาศัยเอง หรือโรงเรือนที่ปิดว่าง ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ ส่วนภาษีบำรุงท้องที่ กฎหมายก็ได้ลดหย่อนที่ดินที่เป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 50 ตารางวา ถึง 5 ไร่ ซึ่งเป็นผลให้บ้านอยู่อาศัยในปัจจุบันได้รับการลดหย่อนที่ดินไปจนหมด โดยไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ ในขณะที่ผู้เช่าโรงเรือนเพื่อที่อยู่อาศัย กลับถูกผลักภาระภาษีโรงเรือนและที่ดินรวมอยู่ในค่าเช่า ทำให้ฐานภาษีแคบ และไม่เป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษีที่ไม่ได้รับการลดหย่อนค่ะ
ตามกฎหมายเดิม ภาระภาษีส่วนใหญ่จึงตกอยู่กับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง แต่ชนชั้นสูงในฐานะผู้ถือครองทรัพย์สินมาก กลับไม่มีภาระภาษี หรือมีก็เพียงภาระภาษีที่เก็บขณะถือครองทรัพย์สินในแต่ละปี ได้แก่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องถิ่น และภาษีที่เก็บขณะที่มีการโอนเปลี่ยนมือ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ หรือค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นค่ะ
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านคะ
ขณะนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนภาษีอีกประเภทหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสร้างเจตคติของคนไทย ให้รักการเสียภาษี มีวินัย ไม่หลบเลี่ยง นั่นคือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างค่ะ
คำว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หมายถึง ทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผู้ครอบครอง โดยจะต้องจัดเก็บภาษีจากผู้ครอบครองนั้น เพื่อนำรายได้มาช่วยพัฒนาท้องถิ่น และพัฒนาประเทศชาติ ภาษีนี้มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้จัดเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และผู้ครอบครอง หรือทำประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บนฐานมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น โดยเพดานอัตราการเสียภาษี แบ่งเป็น 3 อัตราค่ะ คือ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้งานในเชิงพาณิชย์ เสียภาษีในอัตราไม่เกินร้อยละ 0.5 ของมูลค่าที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่ประกอบการเชิงพาณิชย์ ไม่เกินร้อยละ 0.1 และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ในอัตราไม่เกินร้อยละ 0.05 สำหรับที่ดินว่างเปล่า จัดเก็บภาษี ในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าสินทรัพย์ หากไม่ได้ทำประโยชน์อีก ให้เสียภาษีเพิ่มอีก 1 เท่า ในทุก ๆ 3 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของมูลค่าที่ดินค่ะ นับต่อนี้ไป ทุกคนจะต้องเข้ามาอยู่ในระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ประเทศชาติก็จะได้กระจายการถือครองที่ดิน ซึ่งจะเป็นทั้งการพัฒนาที่ดิน และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองตนเองของท้องถิ่นไปพร้อม กัน ดิฉันคิดว่าวิธีการนี้คุ้มค่า คุ้มครอง และคุ้มทุน ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวไกล พัฒนาประชาธิปไตยให้แบ่งบาน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ให้มีความสุขอย่างยั่งยืนค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ อย่างไร ดิฉันขอนำเสนอ ดังนี้ค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ช่วยพัฒนาท้องถิ่น
ทุกท่านคะ
ท้องถิ่นจะก้าวไกล เมื่อประชาไทยร่วมเสียภาษี เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็จะต้องนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นโดยตรง เช่น พัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการ พัฒนาการศึกษา ให้ก้าวไกล ก้าวทัน ตามความต้องการของท้องถิ่น และเมื่อท้องถิ่นได้รับการพัฒนา มูลค่าสินทรัพย์ก็จะยิ่งเพิ่มพูน ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของเรา ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้น พร้อม ๆ กับ ความเจริญรุ่งเรืองของท้องถิ่นค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พัฒนาประชาธิปไตย
คำว่า ประชาธิปไตย อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดี คนที่ 16 ของ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เป็นระบอบการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ประชาชนจึงมีอำนาจสูงสุดในการปกครองตนเอง โดยจะได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนเข้าไปบริหารงบประมาณของแผ่นดิน ตามระบอบประชาธิปไตย เราจะต้องเลือกคนดี ที่ซื่อสัตย์ ขจัดการซื้อเสียง เพราะจอมโจรที่จะปล้นบ้านกินเมืองของเรา ก็คือ เหล่านักการเมืองนั่นเองค่ะ
การที่เราจะรดน้ำ พรวนดิน ให้ประชาธิปไตยแบ่งบานนั้น ย่อมอยู่ที่การที่ประชาชนเข้าใจ เข้าถึง และมีโอกาสเข้าไปตรวจสอบการบริหารงานในท้องถิ่น ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และร่วมกันเป็นเจ้าของท้องถิ่น การเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยรักบ้านเกิด รักท้องถิ่น เกิดความหวงแหนท้องถิ่น และไม่นึกเสียดายเงินภาษีเพียงเล็กน้อย ที่ได้เสียสละ เพื่อนำความรุ่งเรืองสู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ปราศจากการโกง ของข้าราชการและนักการเมืองในท้องถิ่นค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พัฒนาชาติ
ทุกท่านคะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปูเส้นทางให้ชาติรุ่งเรือง เมื่อท้องถิ่นได้รับการพัฒนาจากเงินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของคนในท้องถิ่นอย่างเต็มที่ โดยไม่ใช้งบประมาณจากทางรัฐบาลมากนัก ท้องถิ่นจะ สามารถยืนอยู่ได้อย่างเข้มแข็งและสง่างาม ด้วยภาษีรายได้ของคนในท้องถิ่นเอง รัฐบาลก็จะมีเงินเหลือ จะได้นำงบประมาณไปพัฒนาในด้านอื่น ๆ อย่างเต็มศักยภาพ และเนื่องจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ เป็นเงินภาษีที่จัดเก็บภายในท้องถิ่น ไม่ต้องผ่านรัฐบาลส่วนกลางจึงเป็นการตัดวงจรอุบาทว์ในเรื่องการคอรัปชั่นของเหล่านักการเมืองและข้าราชการระดับชาติ ที่ชอบประพฤติตนเป็น”กังฉิน” มือสกปรก กอบโกยทรัพย์สินของแผ่นดินค่ะ
ดิฉันหวังว่า หากร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้รับการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ คงจะเกิดคุณค่าต่อการพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย และพัฒนาชาติ จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จงภาคภูมิใจในสินทรัพย์ของตนเอง มีจิตสำนึกระลึกคุณแผ่นดินเกิด เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยการเสียสละเงินเพียงเล็กน้อย เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย และพัฒนาชาติ ให้วัฒนาสถาพรตลอดไป

พัฒนาท้องถิ่น       พัฒนาประชาธิปไตย     พัฒนาชาติ
เสียภาษี              ไม่กี่บาท                    อย่าขาดหา
ภาษีที่ดิน             สิ่งปลูกสร้าง                ทางสบาย
มูลค่าหลาย          เพิ่มทรัพย์สิน               ที่ดินเรา